Home -> Review -> รีวิว Netgear X6 ตะขาบอวกาศ Wireless Router ตัวแรกในไทยที่รองรับ Triband WIFI

รีวิว Netgear X6 ตะขาบอวกาศ Wireless Router ตัวแรกในไทยที่รองรับ Triband WIFI

ไม่ได้รีวิวอุปกรณ์ Network ยี่ห้อ Netgear มาซักพักแล้ว แต่อีกเดี๋ยวจะมีมาเพียบ รออ่านรีวิวกันได้เลยนะครับ สำหรับตัวแรกที่เอามารีวิวคือ Netgear X6 ซึ่งเป็น Wireless Router ที่เทพที่สุดสำหรับ Home และ SME ในตอนนี้ ไม่มีเทพกว่านี้แล้วแน่นอน!!

IMG_8505

Netgear ได้เปิดตัวอุปกรณ์ Wireless Router ที่เป็น Series ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Nighthawk (เหยี่ยวราตรี) โดยอาศัยสีดำ และการออกแบบที่คล้ายๆเครื่องบินรบ F117A Nighthawk ที่โด่งดังครับ ซึ่งมีทั้งหมด 3 รุ่น ตั้งแต่รุ่นกลางไปจนถึงรุ่นโคตรเทพ แต่ละตัวจะแตกต่างกันที่ความเร็วซีพียู กับ Bandwidth ของ WIFI ที่ปล่อยออกมาได้โดยที่รุ่นสูงสุดของ Nighthawk Series ก็คือเจ้า X6 นี่แหละครับ

IMG_8506

Nighthawk Series ทั้ง 3 รุ่น คือ X3 , X4 และ X6 .. ความแตกต่างก็คือ จำนวนเสานั่นแหละครับ X3 มีสามเสา , X4 มีสี่เสา และ X6 ก็มีหกเสานั่นเอง และจุดเด่นที่ทำให้ X6 มันเทพที่สุดในวงการ Wireless Router ตอนนี้ก็คือความสามารถที่เรียกว่า Tri-Band WIFI ครับ

dual-band traffic diagram_new_v2

ผมเคยอธิบายเรื่องของ Dual Band WIFI Router ไปใน Blog ก่อนหน้านี้บ้างแล้ว มันก็คือ WIFI Router ที่สามารถปล่อย Wireless LAN ความถี่ 2.4Ghz และ 5Ghz ออกมาพร้อมกัน ทำให้มี Bandwidth มากขึ้น และสามารถลดปัญหา Channel ของสัญญาณ WIFI ชนกันในคลื่น 2.4Ghz ได้ด้วย (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ)

TriBand2-large

แต่สำหรับ Tri-Band WIFI มันก็คือ Wireless Router ที่สามารถปล่อยสัญญาณออกมาได้ 3 คลื่นความถี่พร้อมๆกันครับ นั่นก็คือ

  • 2.4 Ghz ความถี่พื้นฐานสำหรับอุปกรณ์ Wireless LAN รุ่นเก่า
  • 5Ghz ที่ Channel ต่ำ เป็นความถี่สำหรับอุปกรณ์ Wireless LAN รุ่นที่รองรับ Dual Band ได้
  • 5 Ghz ที่ Channel สูง สำหรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่รองรับ Wireless LAN มาตรฐานล่าสุด 802.11ac

ซึ่งเมื่อรวมเอา Bandwidth ที่ทั้ง 3 ย่านความถี่สามารถทำได้ เจ้า Netgear X6 ตัวนี้จึงมี Bandwidth มากกกกกถึง 3,200 Mbps เลยทีเดียวครับ (600 Mbps + 1,300 Mbps + 1,300 Mbps)

แล้วจะเอา Bandwidth เยอะๆไปทำอะไร?

ต้องอธิบายให้ทราบก่อนนะครับว่า อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านระบบ Wireless LAN เนี่ย เวลาเชื่อมต่อเข้ามาที่ระบบแล้ว จะแชร์ความเร็วกัน เช่นถ้าคุณใช้ Wireless Router ที่สามารถปล่อย Wireless LAN มาตรฐาน 802.11N ความเร็ว 300Mbps แล้วมีอุปกรณ์เช่น Notebook , Smartphone , Tablet เข้ามาเชื่อมต่อซัก 10 เครื่อง ความเร็วที่อุปกรณ์ตัวนั้นจะสามารถทำได้สูงสุดโดยเฉลี่ย ก็คือ 30 Mbps ครับ … หลักการง่ายๆ ก็คือใช้ความเร็วสูงสุด หารด้วย จำนวนเครื่องที่เข้ามาเชื่อมต่อ (อย่างไรก็ตามเป็นการคำนวนตามทฤษฏืเท่านั้น เพราะไม่ได้แปลว่าอุปกรณ์ทั้งหมดจะใช้งานพร้อมๆ ตลอดเวลา อาจจะผลัดกันเข้า ผลัดกันออกบ้าง)

ซึ่งในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าแต่ละบ้านมีอุปกรณ์ไร้สายเยอะขึ้นอย่างมาก เมื่อก่อนอาจจะมีแค่ Notebook แค่บ้านละเครื่องหรือสองเครื่องเท่านั้น แต่เดี๋ยวนี้ ทุกคนในบ้านอาจจะมี Notebook คนละเครื่อง มี Smartphone ประจำตัว บางคนมี iPad อีก หรือบ้านไหนไฮโซหน่อยก็อาจจะมี Smart TV หรือกล่อง Media Player ที่สามารถรับชมรายการทีวีผ่าน Internet ก็ได้

กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ อุปกรณ์ในบ้านหลังนึงอาจจะแตะ 20 ชิ้นก็ได้ แถมกิจกรรมบนโลกออนไลน์ของคนมันไม่ธรรมดาอีกต่อไปแล้วครับ เปิดเว็บ คนเรายังดู Video Streaming , Video Conference , ก็อปปี้ไฟล์ และทำอะไรอีกสารพัดจาก Network ทำให้ Wireless Router แบบธรรมดาที่แจกมากับ ISP ไม่เพียงพอต่อการใช้งานอีกต่อไป

แต่ Tri-Band WIFI มันก็เยอะไปน้า อาจจะไม่เหมาะกับบ้านผมก็ได้?

จริงครับ! เพราะตัวมันเองรองรับอุปกรณ์ได้พร้อมๆกัน 200 ชิ้นพร้อมๆกัน … ถ้าบ้านคุณไม่ใช่ระดับคฤหาสน์ร้อยล้านบ้านทรายทองที่มีญาติในตระกูลอยู่ครบพร้อมกัน อาจจะไม่ต้องใช้ Netgear X6 ก็ได้ครับ แค่รุ่น X3 ก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่สำหรับสำนักงานงานเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง ที่มีอุปกรณ์ในสำนักงานเพียบ ผมอยากจะบอกว่า เจ้า Netgear X6 อาจจะแก้ไขปัญหา Network ให้คุณได้นะครับ

IMG_8509

เอาล่ะ มาดูในกล่องกันหน่อยดีกว่า

ในกล่องไม่มีอะไรมากเลยครับ มีแค่

  • ตัวเครื่อง Netgear X6
  • Power Adapter ที่ใหญ่มาก อย่างกับของ Notebook
  • สาย LAN แบบ CAT6
  • คู่มือ

IMG_8510

หน้าตาของ Netgear X6 จะเป็นพลาสติกสีดำเรียบๆ ข้างบนเป็นตะแกรงระบายอากาศ และมีไฟบอกสถานะ เรียงมาตรงกลาง เสาอากาศทั้ง 6 เสาจะถูกพับเอาไว้

IMG_8512

และเมื่อกางออกมาก็จะกลายร่างเป็นตะขาบอวกาศแบบนี้แหละครับ

IMG_8516

Port ด้านหล้งเครื่องมี

  • USB 2.0 x 1 เอาไว้เสียบพวก Printer จะได้ทำ Printer Server ได้
  • ปุ่ม เปิด/ปิด ไฟ LED สำหรับคนที่ใช้งานในห้องนอนจะได้ปิดไฟแจ้งบอกสถานะได้ ไม่แยงตาตอนนอน
  • Gigabit LAN ทั้งหมด 4 Port
  • Gigabit WAN
  • USB 3.0 x 1 เอาไว้เสียบ External Harddisk หรือ USB Drive เพื่อทำเป็น File Server
  • ปุ่ม Reset ระบบ
  • ช่องเสียบ Power Adapter
  • ปุ่ม เปิด/ปิด เครื่อง

IMG_8517

ที่อยากจะให้ตรวจสอบก็คือ ถ้าคุณซื้ออุปกรณ์ของ Netgear รบกวนสังเกตว่ามี Void ของ KING IT หรือเปล่าด้วยนะครับ เพราะอุปกรณ์ Netgear ที่จัดจำหน่ายโดย KING IT จะประกันยาวถึง 10 ปีเลยครับ

IMG_8523

แล้วก็ที่ด้านหน้าเครื่องจะมีปุ่มอีก 2 ปุ่ม นั่นก็คือ ปุ่ม เปิด/ปิด สัญญาณ WIFI และปุ่ม WPS ไว้กดรับอุปกรณ์ Wireless LAN ให้เข้ามาในระบบโดยไม่ต้องใส่รหัสครับ

IMG_8514

ในแง่ของ Spec ข้างใน Netgear X6 ทำงานบน CPU แบบ Dual Core 1Ghz และมีแรมอีก 256MB ครับ ถือว่าเยอะมากสำหรับ Wireless Router นะ เพราะทั่วๆไป ใช้ CPU 300-500Mhz เท่านั้นเอง แถมแรมยังให้มาแค่ 16MB อีกต่างหาก นี่แหละถึงเป็นสาเหตุว่าทำไม Wireless Router ที่แถมมากับ ISP ถึงได้ให้บริการอุปกรณ์ได้จำนวนน้อยกว่า สาเหตุนึงก็เพราะว่า CPU ที่ช้ากว่า และ แรมที่น้อยกว่านั่นแหละครับ

แล้วความสามารถในฐานะ Wireless Router มีอะไรบ้าง?

SNAG-0195

อย่างแรกเลยก็คือ Setup Wizard ที่ช่วยให้คุณ Setup ค่า Internet ได้ง่ายๆ ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่ทำให้คนซื้อหลายคนตกม้าตายกันมาก นั่นก็คือ ซื้อมาแล้ว Setup ไม่เป็น ทาง Netgear เลยทำระบบ Setup Wizard มาให้ ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เดี๋ยว Setup ใช้งานได้เอง

IMG_8511

Setup ค่า Wireless LAN มาให้แล้วแบบง่ายๆ อันนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่ตั้งค่า Wireless LAN ไม่เป็นครับทาง Netgear เลยทำมาให้เรียบร้อยจากโรงงานเลย พลิกดูบนใต้เครื่องจะเห็นว่า ชื่อ SSID คืออะไร และ Network Key คืออะไรครับ

SNAG-0197

มีระบบช่วยจัดการ USB Storage ที่เสียบเข้าไปในเครื่อง ซึ่งสามารถให้เข้ามาเอาไฟล์ผ่าน Protocol ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น File Sharing แบบ PC / Mac หรือจะแชร์เป็น HTTP / FTP บนเครือข่าย Internet ก็ได้และที่สำคัญกำหนด User / Password ให้กับ Folder ได้ด้วยครับ ซึ่งเหมาะมากสำหรับองค์กรที่อยากจะทำ File Server ง่ายๆ ให้เก็บไฟล์ของบริษัทโดยแยกตามแผนก แบบที่แต่ละแผนกจะไม่เห็นไฟล์ซึ่งกันและกันอะไรแบบนี้

SNAG-0198

นอกจากนั้นยังสามารถทำให้ไฟล์เพลงใน USB Drive ตัวนี้กลายเป็น Media Server ที่เล่นผ่านมาตรฐาน DLNA ที่ใช้กับ Smart TV ทั่วไป หรือ iTunes Server ของฝั่ง Mac ก็ได้ด้วยครับ

SNAG-0199

ในด้านความปลอดภัย ตัว Netgear Nighthawk Series ทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกับฐานข้อมูลของ OpenDNS ที่เป็นฐานข้อมูลเว็บไซต์ทั่วโลก และสามารถที่จะบล๊อคเครื่องในเครือข่ายทั้งหมดไม่ให้เข้าเว็บอันตราย ตามแต่ Filtering Level ที่กำหนดเอาไว้ได้ด้วยครับซึ่งไม่ใช่แค่ Block เว็บกันแบบทื่อๆนะ แต่สามารถเลือกได้เลยว่าจะบล๊อกเครื่องไหน กี่โมงกี่ยาม กำหนดได้หมดครับ

SNAG-0200

แต่ถ้าเกิดไม่หนำใจ สามารถเลือกอุปกรณ์ในเครือข่ายที่เครื่องมองเห็นได้เลยว่าตัวไหนสามารถจะออก Internet ได้บ้าง

SNAG-0201

หรือจะกำหนดเป็น Keyword เช่นคำว่า Sex , ปืน , ยาบ้า เพื่อไม่ให้เปิดเว็บที่มี Keyword เหล่านี้อยู่ในหน้าเว็บก็ได้นะครับ

SNAG-0207

อีกความสามารถนึงที่เจ๋งมาก นั่นก็คือ Dynamic QoS ครับ.. เป็นความสามารถที่ต้องอธิบายกันยาวซักหน่อย ในการใช้งาน Network ให้ได้อย่างราบรื่น เราสามารถกำหนดได้ว่า ข้อมูลประเภทไหน ขอแซงข้อมูลอื่นๆในการโหลดไปได้ เช่นคุณอาจจะกำหนดให้การคุย Video Conference เป็นเรื่องสำคัญมากให้สิทธิ์ข้อมูลประเภทนี้ให้วิ่งไปได้ก่อนข้อมูลอื่นๆ เช่นการเปิดเว็บทั่วไปหรือการดาวน์โหลด ซึ่งนั่นแหละครับ คือการทำ QoS (Quality of Service) ให้กับ Network โดยที่ยิ่งคุณปรับแต่ง QoS เก่งเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้่ Network ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

SNAG-0209

แต่การทำ QoS แบบเมื่อก่อน ต้องทำเอง และยากมากๆ คนที่มีความรู้ด้าน Network ยังปรับกันไม่คล่องเลย แล้วผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่มีความรู้ก็ไม่มีทางใช้เป็นแน่นอน ทาง Netgear เลยทำระบบชื่อ Dynamic QoS ขึ้นมาครับ โดยที่ตัว Router จะมีฐานข้อมูลของ Web Service ทั่วโลกเอาไว้ ว่าบริการไหนมีความสำคัญแค่ไหน เช่น Youtube , Facebook หรือการเช็คเมล์ จากนั้นก็จะจัดลำดับ ความสำคัญของข้อมูลประเภทต่างๆให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้งาน Netgear สามารถรีดประสิทธิภาพของ Network ออกมาได้เต็มที่โดยที่ไม่ต้องออกแรง Set ค่าอะไรวุ่นวายเลยครับ

อย่างในภาพมันจะเห็นหมดเลยว่า Notebook ของผมใช้งานอะไรอยู่บ้างด้วยความเร็ว Upload เท่าไหร่และ Download เท่าไหร่ บอกหมดเลย

SNAG-0203

อีกอันนึงที่ชอบมากเลยก็คือ Netgear Nighthawk Series ทั้งหมดสามารถทำ “Guest Network” ได้ครับ มันเป็นความสามารถที่จะสร้าง Wireless LAN ขึ้นมาอีกหนึ่งวงแล้วให้ แขกที่มาบ้านเราของใช้งานเท่านั้น เค้าสามารถเล่น Internet ได้อย่างเดียว แต่จะไม่เห็นเครือข่ายส่วนตัวของเราเลยครับ เหมาะมากสำหรับ องค์กร ที่อยากจะให้ลูกค้าหรือแขกที่มาประชุมใช้งาน Internet แต่ไม่อยากให้เค้าซนจนมาเห็นอะไร Network ภายในของเรา

SNAG-0204

และสามารถทำเป็น VPN Server ได้ด้วยครับ ถ้าเกิดคุณนำเอา Netgear X6 มาใช้เป็น Gateway ในองค์กรแล้วอยากทำ VPN Server แบบง่ายๆ ให้พนักงานสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายจากที่ไหนก็ได้กลับมาที่ Office ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านโปรแกรม OpenVPN ครับ ซึ่งทาง Netgear ก็ทำขั้นตอนการสร้าง VPN Server พร้อมกับสอนการเชื่อมต่อกลับมาที่ตัวมันในหน้านี้เลยครับ

SNAG-0205

ถ้าเกิดคุณตังค์เหลือ อยากจะแปลงร่างเจ้า Netgear X6 เป็น Access Point เฉยๆ ก็ทำได้ แค่เปิด AP Mode แล้วก็เสียยสาย LAN เข้าที่ช่อง WAN แค่นี้ก็ได้ Access Point โคตรเทพแล้วครับ

SNAG-0206

สำหรับคนที่กลัวการอัพเดท Firmware ให้กับอุปกรณ์ Network เพราะมันอาจจะซับซ้อน ทาง Netgear ทำระบบ Auto Update ไว้พร้อม ไม่ต้องกลัวว่าจะไปโหลด Firmware มาผิดรุ่นแล้วอัพเดทจนพัง ซึ่งเป็นปัญหาโคตร Classic ที่ Router ทุกยี่ห้อต้องเจอครับ ฮ่าๆ

IMG_8513

สรุปคร่าวๆ กับการใช้งาน Netgear X6

ผมใช้ Netgear X6 เป็น Wireless Router ประจำบ้าน ซึ่งอยากจะบอกตรงๆ ว่าอยู่กันแค่ 2 คนกับแฟน เท่านั้นเองครับ แต่อุปกรณ์ก็เกือบๆ 10 กว่าชิ้นนะ มีหมดทั้ง PC / Mac / iOS / Android / Smart TV / NAS / Server ก็ขอสรุปความรู้สึกในการใช้งานประมาณนี้นะครับ

  • เร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Net , ก็อปไฟล์ , เล่นหนังจาก NAS หรือ Backup ข้อมูลในเครื่อง Mac ลง Time Machine .. เร็วสะใจกว่าเก่ามากเลย
  • ทนมาก เปิดมา 3 อาทิตย์กว่าแล้ว ไม่ต้อง reset เลยซักครั้ง
  • เหมาะกับบ้านที่มีอุปกรณ์เกิน 20 ชิ้นขึ้นไป , บ้านท่านเศรษฐีที่ซื้อไหวและอยากหมดปัญหาเรื่อง Wireless LAN รวมไปถึง องค์กรที่มีพนักงานประมาณ 50 คน แต่ไม่ต้องการ Manage อะไรมากอยากได้ Wireless Router ที่ทนๆ และ รองรับการทำงานไหวก็พอ
  • Netgear มี App ชื่อ Netgear Genie เป็น App ที่สามารถทำให้เรา Manage ทุกอย่างผ่าน App ได้เลย ไม่ต้องเปิด Browser
  • ปัญหาอย่างเดียวคือค่าตัว … ราคาประมาณ 14,500 บาทครับ เป็นราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียวสำหรับ Premium Home Router แต่สำหรับ SME ผมถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ Network ที่มีความสามารถระดับนี้
  • อย่าลืมมองหา Void King IT ถ้าคุณซื้ออุปกรณ์ Netgear เพราะว่าถ้าคุณซื้อกับ King IT .. เค้าจะมี Service วิ่งไปบริการติดตั้งให้ถึงบ้าน แถมมีปัญหาเปลี่ยนตัวใหม่เลยครับ แถมระยะเวลาประกันยาวนานถึง 10 ปีอีกต่างหาก ไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/kingit.network

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine