Home -> Blog -> ไปดูงาน Social Enterprise ในประเทศไทยที่ Singha Park โคตรอร่อยเลย เอ๊ะ ยังไง?

ไปดูงาน Social Enterprise ในประเทศไทยที่ Singha Park โคตรอร่อยเลย เอ๊ะ ยังไง?

ได้รับเชิญจากทาง Singha ให้ไปเยี่ยมชมกิจการที่เรียกว่าเป็น Social Enterprise ของทาง Singha ที่ Singha Park จังหวัดเชียงรายครับ ก็เป็นครั้งแรกที่ไปเยือนที่นี่ และผมเองก็สนใจกิจการที่เรียกว่า Social Enterprise ด้วย ว่าทำไมทาง Singha ถึงลงทุนมหาศาลกับที่แห่งนี้ทั้งๆที่จำนวนเงินมหาศาลเอาไปทำอย่างอื่นก็ได้นะ

IMG_5803

วูบแรกที่เดินทางถึงเชียงราย พวกเราชาวคณะ Blogger กว่าสิบชีวิตกริ๊ดกร๊าด กับภาพที่เห็น เพราะนึกว่าหมอกแห่งความหนาวเย็นลงปกคลุมทั้งเมือง นึกว่าจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากดินแดนตอนเหนือ

ที่ไหนได้ ซักพักเริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก ควันทั้งนั้นครับ ฮ่าๆ

ช่วงนี้จังหวัดทางตอนเหนือโดนควันไฟที่เกิดจากการไฟป่าและการลักลอบเผาป่า ที่เป็นปัญหาทุกปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา พวกเราทุกคนเริ่มเป็นกังวลว่าทริปนี้จะสดใสไหมเนี่ย

IMG_5808

หลังจากที่เดินทางมาถึงที่พัก ก็ได้ผู้บริหารระดับสูงของ เครือ Boonrawd Brewery พี่ ตราชู กาญจนสถิตย์ มาเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับ Singha Park ให้ฟัง

IMG_5856

โดยที่ Singha Park เนี่ย ก่อนหน้านี้ชื่อ ไร่บุญรอด เป็นโครงการ Social Enterprise ของทางสิงห์ ที่เปิดขึ้นมาเพื่ออยากหาทางทำงานร่วมกับชาวเขาในพื้นที่ โดยที่นอกจากพัฒนาพื้นที่ทางการเกษตรแล้ว กำไรที่ได้ยังเอาเงินนั้นกลับมาพัฒนาสังคมในพื้นที่นั้นๆอีกด้วยครับ

Social-Enterprise-Desc-poster

คนที่ยังไม่เคยได้ยินคำว่า Social Enterprise … คงต้องย้อนอธิบายกลับไปยังเรื่องของสิ่งแวดล้อรอบตัวเราที่ตอนนี้กำลังอยู่ในสภาวะย่ำแย่ ภาคเอกชน หรือใครก็ตามที่อยากจะช่วยเหลือ ก็จะดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการ CSR หรือ Coporate Social Responsibility ใช่ไหมครับ

CSR เนี่ยจะเป็นอะไรที่เหมือนกับว่า ทางภาคเอกชนที่มีกิจการอะไรบางอย่างเช่นการเปิดโรงงาน การผลิต การแปรรูปหรืออะไรก็ตามที่กิจการนั้นทำอาจจะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ว่าก็ได้กลับมาช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมเหล่านั้นด้วยการออกเงิน จัดกิจกรรม เพื่อแก้ไขผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น

ถัดมาก็มีการยกระดับขึ้นเป็น CSV หรือ Creating Shared Value …  ให้อารมณ์เหมือนกับ ถ้ากิจการที่คุณทำอ่ะ มันมีการส่งผลถึงสิ่งแวดล้อมใน Process ใดๆก็ตาม ก็หาทางกำจัดซะ แก้ไขซะ ซ่อมแซมซะ เพื่อให้กิจการของคุณมันดำเนินอยู่ในสิ่งแวดล้อมนั้นๆได้

ส่วนของทาง Singha Park เนี่ย จะอยู่ในหมวดหมู่ของ Social Enterprise .. หมายถึง การมีอยู่ขององค์กรนั้นเป็นการการอยู่เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมนั้นๆเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อการดำเนินงานของมันได้อยู่ในสังคมและอยู่ร่วมกับสังคม กำไรจากการปฏิบัติงานของมันก็จะกลับมาเพื่อหมุนเวียนสังคมนั้นๆ อารมณ์เหมือนเป็นกิจการที่อยู่ร่วมกับสังคมนั้นๆไปเลย

Screen Shot 2016-03-29 at 15.16.10

ทีนี้เมื่ออธิบายรูปแบบของ Singha Park เสร็จ พี่ตราชูก็นำขบวนพวกเราเพื่อไปชมกิจการด้าน Social Enterprise ใน Singha Park ว่ามีอะไรบ้าง

พื้นที่ของ Singha Park ตอนนี้กว้างถึง 8,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เปิดให้แขกเข้ามาเยี่ยมชม ทำกิจกรรม ทานอาหาร กับ พื้นที่ทำฟาร์มสำหรับการเกษตรที่ให้เจ้าหน้าที่เข้าได้เท่านั้น ซึ่งวันนี้เราจะได้เข้าไปเยี่ยมพื้นที่ฟาร์มเหล่านั้นด้วยครับ

IMG_5813

ก่อนจะเข้าไปเยี่ยมชมก็เที่ยงพอดี หิวข้าวซึ่งใน Singha Park ก็มีร้านอาหารสองแห่งด้วยกัน โดยที่เที่ยงนี้เรามาลุยกันที่ Barn House Pizzeria ครับ จุดเด่นของร้านนี้ก็คือใช้วัตถุดิบจากฟาร์มเกือบทั้งหมดนั่นเอง โอ้แม่เจ้า …… การันตีความอร่อยเลยครับ พวกเราเหล่า Blogger ก็ขอสั่งของที่เป็นเมนูเด็ดที่นี่เลย เมนูแรกคือ พิซซ่าหน้าแกงกะหรี่เนื้อ!!

ใช่ครับ แกงกะหรี่เนื้อแบบญี่ปุ่นที่เราราดข้าวสวยทานนั่นแหละ แต่ดัดแปลงแล้วเอามากินกับแป้งพิซซ่าครับ แป้งพิซซ่าแบบบาง อบมากรอบนิดๆ ราดชีสเยิ้มๆ กับแกงกะหรี่เนื้อรสเข้มข้ม ช่วงเวลาที่เคี้ยวเข้าไปนี่ระดับเวลาหยุดหมุนเลยครับ อร่อยระดับก็อดซิลล่าถล่มเมือง

IMG_5817

เมนูที่สองคือ มอสซาเรลล่าชีสทานกับมะเขือเทศสดครับ ความหวานอมเปรี้ยวของมะเขือเทศสดกับความมันของชีสมอสซาเรลล่า รวมร่างกันในปากแล้วกลายเป็นรสอร่อยอย่างเหลือเชื่อ เป็นเมนูที่แนะนำว่าต้องสั่งครับ

IMG_5819

จานที่สามเป็น ผักย่างครับ ผมพยายามสั่งผักมาหลายเมนูเพราะอยากจะรับรู้ว่า ผักสดๆที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารที่นี่มันจะเด็ดขนาดไหน แล้วก็ไม่ผิดหวังแม้แต่เมนูเดียว ความสด ความหวานของผักอร่อยมากครับ

IMG_5825

ปิดท้ายด้วยเมนูที่ทุกคนกรีดร้องงงงงง มันคือเนื้อทีโบนขนาด 800 กรัม ย่างแบบมีเดียมแรร์ เสริ์ฟคู่กับผักย่างที่ชื่อว่า Porter House เมนูนี้ทานได้ 2-4 คนเลยนะครับ เนื้อทีโบนที่เป็นเนื้อตรงกลางระหว่างสันนอกกับสันใน ย่างมาแบบฉ่ำพอดีๆ ทานคู่กับผักย่างที่โคตรอร่อย และตรงขอบจะมีเกลือทาเอาไว้เพื่อเสริมรสเนื้อให้เด่นขึ้นไปอีก โอ๊ยยยยย ไม่ต้องทาน 2-4 คนหรอกครับ ผมอยากจะกินมันคนเดียวทั้งจานเลย

IMG_5834

แต่ไม้ตายที่สร้าง Damage มากที่สุดใน Porter House ก็คือ น้ำจิ้มนี่ครับ ตอนแรกที่ Porter House ถูกยกมาเสริ์ฟ ทุกคนต่างตื่นตะลึงในความใหญ่โตของมันจนไม่มีใครสังเกต ซอสแบบพิเศษที่มันถูกนำมาวางด้วยข้างๆ  จนผมเห็นซอสสีแปลกๆ เลยลองเอาเนื้อไปจิ้มดู

โอวววว นี่มันสร้างความรุนแรงแบบเดียวกับไคจูระดับ 5 สองตัวรวมกันเลย เพราะเจ้าน้ำจิ้มนี่ มันจะคล้ายๆกับ น้ำของปูผัดผงกะหรี่ครับ ความนัว ความหอม ความหวาน เมื่อรวมร่างเข้ากับเนื้อสันนอก ติดมันนิดๆ โอววววววว ตายตาหลับบ!!!!

หลักๆที่พวกเราเหล่า Blogger ได้ไปเยือนมีหลายไร่มากครับ

ฟาร์มดอกไม้จากฮอลแลนด์ ซึ่งนำเข้ามาปลูกในระบบปิดเพื่อควบคุมอุณหภูมิ จากนั้นก็พัฒนาสายพันธุ์ให้มันสามารถปลูกในประเทศไทยได้

RE Camera

ฟาร์มผลไม้ เช่น ราสเบอรี่ สตรอเบอรี่ เมล่อน ซึ่งจะเปิดให้คนมาเยี่ยมชมแล้วก็เด็ดกินได้นะครับ โอ๊ยยย ขนาดกินตอนช่วงที่ไม่ใช่หน้าของมันยังอร่อยขนาดนี้

RE Camera

โดยเฉพาะเมล่อนซึ่งเป็น เมล่อน นัตสึเค เนื้อกรอบ ฉ่ำ หวาน ที่เมื่อปลูกแล้ว ต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน และระหว่างที่ปลูกเนี่ย เค้าจะเด็ดลูกอื่นบนต้นออกให้หมด เหลือแต่ลูกละต้นเท่านั้น เพื่อให้ลูกยั้นฉ่ำที่สุด กลายเป็นเมล่อนลูกโต เนื้อเขียว กัดแล้วน้ำทะลักคาปาก

IMG_6039-PANO

ฟาร์มผัก เช่น ใบเคล (คะน้าใบหยิก) , มะเขือเทศ , พริกหวาน ที่ลูกโตๆ รสชาติอร่อยสุดๆ โดยเฉพาะ มะเขือเทศเชอรี่ครับ กัดเข้าปากปั๊บ รสชาติความเปรี้ยวหวานมันสามอย่างรวมร่างกัน แถมขายใน Singha Park แค่กล่องละ 50 บาท กล่องโตๆ ผมนี่โยนเข้าปากรัวๆเลยครับ

RE Camera

ฟาร์มเห็ดหอม ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดหอม นำเอาเชื้อเห็ดหอมจากประเทศจีนมา จากนั้นก็ค่อยๆปลูก ซึ่งใช้เวลากว่า 6 เดือนกว่าจะเด็ดมาขายได้

IMG_5844

ปิดท้ายด้วยฟาร์มชาเขียว ที่ใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นฟาร์มที่ปลูกใบชาเขียวส่งโรงงานมารุเซนของญี่ปุ่นและเป็นสถานที่ในการถ่ายทำละครมาแล้วหลายเรื่อง

RE Camera

RE Camera

มียีราฟกับม้าลายจากแอฟริกาด้วยนะครับ ก็จะมีเด็กๆมาทัศนศึกษาที่นี่ประจำ  ยีราฟอยู่ข้างหลังนะครับ ตัวทางขวานี่ไม่ใช่ อิอิ

RE Camera

สำหรับนักปั่นทั้งหลาย คุณสามารถปั่นจักรยานรอบ Singha Park ก็ได้นะครับ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เอามาเองก็ได้ หรือจะมาเช่าก็ได้ มีอุปกรณ์ให้ครบ

RE Camera

และปิดท้ายสำหรับคนสาย Extreme ครับ เป็นเครื่องเล่นที่สนุกที่สุดเลยกับ Zip Line .. โรยตัวบนสลิงชมวิว Singha Park จากตึกสูงเกือบ 10 ชั้น!!  ไอ้นี่แหละครับ มันส์สุดๆแล้ว

ผมมีภาพประกอบบทความไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ถ่ายวีดีโอ แต่ก็ตัดวีดีโอมาฝากทุกท่านแล้วครับ ลองกดดูได้ แนะนำเลย สำหรับใครที่ไปเที่ยวเชียงราย อย่าพลาด Singha Park ครับ อาหารหร่อย บรรยากาศดี มีกิจกรรมทำเยอะ มีรถพาทัวร์ใน Singha Park ด้วย แถมทาง Singha เค้าก็จัดงานขึ้นบอลลูนเป็นประจำที่ Singha Park ทุกปี ได้โปรดอย่าพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยจ้า

รายละเอียดเพื่มเติมดูได้จาก http://singhapark.com เลยนะครับ

Check Also

การเรียนรู้รูปแบบใหม่ของ ม.กรุงเทพ ที่ทำให้อยากกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง

นี่คือความรู้สึกของผมจริงๆ ตอนที่นั่งฟังอยู่ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมานี่แหละ ต้องเล่าให้ฟังก่อน ที่ ม.กรุงเทพเนี่ย เป็นมหาวิทยาลัยที่จะใช้ Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ เป็นแกนกลางแล้วนำไปผสานกับเทรนด์อื่นๆของโลก เพื่อสร้างเป็นหลักสูตร …