Home -> Review -> รีวิว Plantronic BACKBEAT GO3 หูฟังออกกำลังกายไร้สายกับซองชาร์จได้

รีวิว Plantronic BACKBEAT GO3 หูฟังออกกำลังกายไร้สายกับซองชาร์จได้

Power On! Listen Time 6 hours. Headset Connected เสียงแรกที่ผมได้ยินจากเจ้า BACKBEAT Go3 หูฟัง Bluetooth สำหรับคนออกกำลังกายรุ่นล่าสุดจาก Plantronics

IMG_9544

Plantronics เป็นยี่ห้อที่คนไทยเรารู้จักดีในฐานะของหูฟัง Bluetooth ที่เข้ามาจัดจำหน่ายในบ้านเราได้หลายปีแล้ว หูฟัง Bluetooth ที่ทาง Plantronics นำเข้ามามีตั้งแต่แบบหูฟังเพื่อคุยโทรศัพท์ไปจนถึงหูฟังเพลงสำหรับออกกำลังกายอย่าง BACKBEAT GO3 นี่แหละครับ

รีวิวตอนนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องความสามารถที่เพิ่มขึ้นจากหูฟัง Bluetooth ทั่วไปในท้องตลาด เพราะ BACKBEAT GO3 ตัวนี้อัดความสามารถมาแน่นมาก มีจุดเด่นที่นอกจากฟังเพลงสนุกแล้วยังเอาไปอวดเพื่อให้ร้องว้าวได้เลยล่ะครับ

เจ้านี่เป็นรุ่นที่ 3 ก็ต้องมีการพัฒนาขึ้นมากอยู่ซักหน่อย ในเรื่องของ Bluetooth Profile รองรับอยู่หลายมาตรฐานด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

  • A2DP 1.2 สำหรับฟังเพลง
  • AVRCP 1.5 สำหรับการใช้รีโมทควบคุมเพลง
  • Wideband Audio HFP 1.7 สำหรับการคุยโทรศัพท์แล้วให้เสียงเป็น HD Voice
  • HSP 1.1 ที่เป็น Profile พื้นฐานสำหรับการคุยโทรศัพท์และการควบคุม เช่นรับสาย วางสาย

IMG_9546

BACKBEAT GO3 เป็นหูฟังแบบ in-ear หูฟังแบบยัดเข้าหูแล้วจะไม่ได้ยินเสียงรอบๆตัว ข้อดีของหูฟังแบบนี้ก็คือ พอไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกแล้ว เราจะได้ยินเสียงแบบเต็มที่จากหูฟังของเรานั่นเอง รูปแบบการใส่จะไม่เหมือนกับตัว BACKBEAT รุ่นเก่าๆที่ยัดเข้าไปตรงๆเลย รุ่นนี้เปลี่ยนทรงนิดหน่อยคือเพิ่มตัวล็อคให้พอดีกับขนาดหูด้วยเพื่อป้องกันหูฟังหลุดจากหูจากการเคลื่อนไหว (อย่าลืมว่าเจ้านี่เป็นหูฟังสำหรับออกกำลังกายนะครับ) ตรงหูฟังก็จะมีกำกับเอาไว้เลยอันไหนหูซ้ายหรือหูขวา

IMG_9545

ไม่รู้ว่าตัว Driver มีขนาดเท่าไหร่ แต่ไม่เกิน 1 เซนติเมตรแน่ล่ะ ตรงจุกด้านนอกตรงนี้ทำสีน้ำตาลเหมือนไม้ก็จริง แต่จริงๆแล้วเป็นพลาสติกนะครับ สกรีนโลโก้ของ Plantronic สีเทาเอาไว้สวยทีเดียว

IMG_9549

หูฟังได้มาตรฐาน Sweat Proof คือ มั่นใจว่ากันเหงื่อได้แน่นอน ผมใส่เดินลุยฝนประมาณ 15 นาทีก็ยังทำงานได้ดีอยู่นะ ตัวสายทำจากเรซิ่นเคลือบกันเหงื่อ แล้วก็เป็นสายแบนเพื่อป้องกันอาการสายพันด้วยครับ

IMG_9547

ตัวรีโมทที่ถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้งาน การกดปุ่มของมันทำหน้าที่ได้หลายอย่างมากครับ

  • ปุ่มตรงกลางถือเป็นปุ่มที่ทำงานบ่อยสุด กดค้าง 4 วินาทีเพื่อเปิดหรือปิดตัวหูฟัง / กดหนึ่งทีเป็นเล่นเพลงหรือหยุดเพลง / กดค้าง 2 วินาที จะเรียก SIRI , Google Now หรือ Cortana มาทำงานได้ / เวลามีสายเข้ากดหนึ่งทีก็รับสายเช่นเดียวกัน ถ้าไม่อยากรับก็กดค้างสามวินาที
  • ปุ่ม + เนี่ย กดหนึ่งทีเป็นเพิ่มเสียง และ กดค้างเป็นเล่นเพลงถัดไป
  • ปุ่ม – ก็กดเพื่อลดเสียงและถ้ากดค้างจะย้อนไปเล่นเพลงก่อนหน้านี้

ซึ่งตัวรีโมทออกแบบมาทำงานกับ iOS / Android / Windows Phone ได้ทั้งหมด ไม่เหมือนหูฟังแบบสายที่ต้องเลือกเอาว่าจะเป็นหูฟังสำหรับ iOS หรือ Android แยกกัน

IMG_9554

แต่ไอ้ที่เขียนเล่าไปข้างบนผมว่าหูฟังยี่ห้ออื่นมันก็ทำกันได้ตั้งเยอะแยะ อาจจะไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ซึ่งผมว่าความเจ๋งของเจ้า BACKBEAT GO3 มันอยู่ที่ซองเก็บหูฟังของมันนี่แหละครับ

IMG_9553

มันเป็นซองเก็บหูฟังที่ชาร์จหูฟังได้ครับ เพราะมี Powerbank ขนาดเล็กๆในตัว ตามสเป๊คแล้ว เจ้า BACKBEAT GO3 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องทั้งหมด 6 ชั่วโมงครึ่ง และในนี้มีพลังพอจะชาร์จหูฟังได้อีกสองรอบ แปลว่าสามารถทำให้คุณใช้หูฟังได้อีกสองรอบ แปลว่า คุณสามารถฟังเพลงได้มากสุดถึง 19 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียว

IMG_9557

กดปุ่มตรงสัญลักษณ์จะบอกด้วยว่า แบทในซองเหลืออีกเท่าไหร่ และถ้ามีไฟที่รูปหูฟังก็แปลว่าเสียบชาร์จอยู่ครับ

IMG_9556

สำหรับจุดชาร์จเจ้า BACKBEAT Go 3 จะอยู่ที่หูฟังข้างขวาครับ แกะพลาสติกที่หุ้มออกมาจะเจอรูป Micro USB ก็เสียบเข้าไปเลย ตอนชาร์จจะมีสถานะไฟกระพริบบอกเราด้วย

IMG_9560

หลังจากที่ลองใช้มาประมาณ 2 อาทิตย์ ขอสรุปความรู้สึกดังนี้นะครับ

  • รูปทรงใหม่ ใส่แล้วกระชับกว่าเดิมมาก ผมใส่ไปขี่จักรยาน กับ ใส่ไปวิ่ง ตัวหูฟังแน่นขึ้นไม่มีกระฉอกออกมาจากหูเลย จะรำคาญนิดหน่อยก็ตรงสายที่พาดคอเด้งดึ๋งๆ ตอนวิ่งนี่แหละ (มันก็เป็นกับทุกยี่ห้อที่ใช้สายคล้องแบบนี้แหละ)
  • คุณภาพเสียงของ BACKBEAT Go 3ให้เสียงออกกลางๆ ไม่ได้ฉูดฉาดมาก ตอนแรกที่ใส่หูยังงงๆ ว่าทำไมมันจืดขนาดนี้ แต่พอเบิร์นไปซักอาทิตย์นึงรู้สึกกระชับมากขึ้น เริ่มจัดจ้านมากขึ้น ถ้าเปรียบกับก๋วยเตี๋ยว ฟังแรกๆก็จะออกเส้นหมี่ลูกชิ้นน้ำใส แต่พอเบิร์นได้ที่แล้วก็เหมือนพริกกับน้ำส้มซักอย่างล่ะช้อนทำให้แซ่บมาอีกหน่อย เบสกระชับกำลังดี เอาเป็นว่า ฟังนานๆแล้วไม่อึดอัด แต่ไม่ได้ว้าวแบบฟังครั้งแรกประทับใจอะไรแบบนี้
  • เนื่องจากมันมี Wideband Audio HFP 1.7 ด้วยจึงรองรับพวก HD Voice ด้วย เวลาคุยโทรศัพท์แล้วอีกฝั่งรอบรับ HD Voice นี่คุณจะรู้เลยครับ มันเหมือนมานั่งคุยข้างๆเลยนะ เสียงมันคมชัดไม่เหมือนคุยโทรศัพท์ทั่วไป
  • การมีซองชาร์จได้นี่โคตรดีงามพระราม 8 เพราะนอกจากมีที่เก็บที่ไม่หนามากแล้ว เวลาเราแกะหูฟังมาใช้ ยังได้ไฟเต็มเปี่ยมอยู่เกือบตลอดเวลาอีกต่างหาก ตอนกลับถึงบ้าน ถ้าไม่ได้แกะหูฟังออกจากซองก็ชาร์จมันทั้งซองได้เลย
  • สามารถ Pair กับอุปกรณ์ได้สูงสุด 8 ตัว แต่ช้าก่อน ไม่ได้ใช้ได้พร้อมกัน 8 ตัวนะครับ มันใช้ได้แค่ทีละตัวเท่านั้น ไม่เหมือนหูฟัง Bluetooth รุ่นใหญ่หลายๆรุ่น ที่สามารถ Pair กับ 2 เครื่องได้พร้อมกันอะไรแบบนี้
  • มีเรื่องขัดใจนิดเดียวคือ ยังไง Bluetooth มันก็ไวต่อคลื่นรบกวน ยิ่งตอนนี้ WIFI แบบ 2.4Ghz ที่เป็น WIFI พื้นฐานมันใช้ความถี่ใกล้ๆกับ Bluetooth ด้วย ทำให้เวลาผ่านพื้นที่ที่มันมี WIFI กวนเยอะๆ จะได้ยินเสียงแคร่กๆ เหมือนวิทยุโดนรบกวนอ่ะครับ
  • สำหรับค่าตัวของ BACKBEAT GO 3 เฉพาะหูฟังอย่างเดียวอยู่ 3,790 บาท แต่ถ้าจะเอา Charge Case ด้วยราคารวมจะอยู่ที่ 4,790 บาทคร้าบ

 

 

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

Leave a Reply