Home -> Review -> ทำความรู้จักกับ Windows 8 และ 10 Features สุดเทพหลังจากลองใช้แล้ว

ทำความรู้จักกับ Windows 8 และ 10 Features สุดเทพหลังจากลองใช้แล้ว

Windows 8 เป็นอาวุธสำคัญของ Microsoft ในการที่จะกลับมาเป็นแถวหน้าของวงการเทคโนโลยีอีกครั้ง หลังจากที่เคยครองโลกด้วย Windows XP และ MS Office มาแล้ว แต่ในยุคที่ Steve Jobs กลับมาคุมบังเหียน Apple ทาง Apple ก็ได้เขย่าโลกด้วยนวัตกรรมตระกูล “i” ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น iPod , iPhone และ iPad .. จนโลกในตอนนี้ เริ่มที่จะเมินกับ Desktop PC แล้วหันเข้าสู่ Smart Device ที่เป็น Smartphone กับ Tablet กันมากขึ้นจนยอดขาย PC ในแต่ละปี ร่วงเอาๆ ส่วนยอดขายอุปกรณ์ Smart Device พุ่งทะลุจุดแตก โตเอาๆ อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทาง Microsoft เองก็ไม่นิ่งนอนใจนะครับ  และหลังจากที่ทำการบ้านมานานหลายปี Windows 8 ก็คือ อาวุธสำคัญของ Microsoft ที่จะกลับมาทวงบัลลังค์อีกครั้ง

ทั้ง Apple และ Google ตอนนี้กำลังสร้าง Platform ที่แข็งแกร่งบนอุปกรณ์พกพาอยู่ โดยเฉพาะ Apple ที่มีทั้ง Mac OSX , iOS ทำงานผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้ง iPad , iPhone และ Mac .. ทาง Google ก็มี Android และกองทัพผู้ผลิตมือถือที่บ้าพลังผลิตอุปกรณ์ Smartphone และ Tablet ให้ทุกวัน ส่วนทาง Desktop ถึงแม้จะเป๋ๆอยู่ แต่ตัวเองก็มี Web Services ที่ทรงพลังอยู่หลายตัว ซึ่งทาง Microsoft เอง จะต้องหาทางเชื่อมโลกของ มือถือ , Tablet และ Desktop เข้าหากันให้ได้ ดังนั้น ระบบปฏิบัติการตัวถัดมาของ Microsoft จะต้องเชื่อมโลกทั้ง 3 อุปกรณ์เข้าด้วยกันครับ  Windows 8 ก็เลยออกแบบมาเพื่อให้ะรองรับทั้ง Tablet , Desktop และในมือถือ ก็จะมี Windows Phone 8 อีกด้วย

ภาพจาก Venturebeat.com

ผมได้ทดลองใช้งาน Windows 8 ในช่วงที่ Microsoft ปล่อยตัวอย่างให้ทดสอบ (Developer Preview) อยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ และ อีกครั้งนึงตอนที่ Windows 8 เปิดตัวทั่วโลก ผมเองก็ได้ซื้อ License ของ Windows 8 Pro เอาไว้ผ่านทาง Windows Upgrade Offer ที่ก่อนหน้านี้มีคนแอบไปรู้มาว่า เป็นช่องทางที่ทำให้เราแอบซื้อ Windows 8 Pro ได้ในราคาแค่ 400 กว่าบาท เพราะระบบมันแทบไม่ได้ตรวจเช็คอะไรเลย (ตอนนี้คงไม่น่าจะได้แล้ว เพราะทาง MS ได้ไล่แบน Serial ของพวกนั้นเกือบหมดแล้ว)

ความรู้สึกแรกที่รู้สึกกับการขึ้นไปใช้ Windows 8 เลย ก็คือ Microsoft ทำการบ้านเรื่องของการ อัพเกรดจาก Windows 7 มาได้ดีมาก เพราะตัวโปรแกรมจะมีระบบอัตโนมัติในการตรวจสอบว่า โปรแกรมในเครื่องเรา ตัวไหนบ้างที่จะสามารถนำไปใช้บน Windows 8 ได้ และมีข้อแนะนำเบื้องต้นในการที่จะแก้ไขปัญหาในกรณีที่โปรแกรมเหล่านั้นไปทำงานบน Windows 8 ไม่ได้ (ทางเลือกสุดท้าย ถ้าไม่ได้จริงๆก็ต้อง Uninstall โปรแกรมตัวนั้นออกนั่นแหละครับ)

และ Microsoft ก็ยังใจดี ถึงขนาดที่ ตัว Windows 8 สามารถอัพเกรดจาก Windows XP ได้ แต่มีข้อแม้อย่างนึงว่า ตัวโปรแกรมที่คุณติดตั้งไว้จะต้องติดตั้งใหม่ทั้งหมด เพราะว่า Kernel ของตัว Windows XP กับ Windows Vista และ 7 มันเป็นคนละตัวกันนั่นแหละ ถึงไม่สามารถอัพเกรดได้เนียนๆได้

ความรู้สึกที่สองก็คือ ความเร็ว ด้วยการที่ Windows 8 มีการรื้อระบบบูทใหม่เกือบหมด ทำให้เครื่องที่แรงอยู่แล้ว บูทเร็วขึ้นมากๆ ส่วนเครื่องที่ไม่ค่อยจะแรงก็ได้เลยอานิสงส์ความแรงไปด้วย ต่ออายุตัวเองออกไปอีกหน่อย ผมเคยทดสอบการบูท Windows 8 บน SSD ของ Vertex 4 ไปแล้ว สามารถดูความเร็วได้จากวีดีโอข้างล่างนี่ได้เลย .. ซึ่งความเร็วระดับเหนือชั้นนี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ใครๆติดใจ Windows 8

แต่การมาของ Windows 8 ก็เป็นการเปลี่ยนวิถีของผู้ใช้จำนวนมากเช่นเดียวกัน

Microsoft พยายามที่จะชูความเป็น Touch Device ของตัวเองให้กับผู้ใช้ และ ผู้ผลิตอุปกรณ์อย่างมาก ผู้ใช้งาน Windows 8 จำนวนมากจะได้พบกับหน้าตาใหม่ของ Windows นั่นก็คือ หน้า Start Screen แบบใหม่ที่เป็นลักษณะ Live Tile ที่อยู่ใน Windows Phone 7 มาก่อน รวมถึงเอาปุ่ม Start ออกไป .. ซึ่งการกระทำนี้เรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่จำเป็นต้องทำเพื่อกระชากผู้บริโภคออกจากปุ่ม Start มาสู่หน้าจอแบบใหม่ที่จะเป็นอนาคตของการพัฒนา Windows ตัวต่อๆไปในอนาคต

หน้าจอ Start Screen แบบใหม่ ที่หลายคนอ้าปากค้าง ทั้งอึ้ง และ มึนส์

การที่ Microsoft เอาหน้า Start Screen แบบใหม่ เป็น “หน้าแรก” ของ Windows 8 และ เอาปุ่ม Start ออก สร้างเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนให้กับผู้ใช้รุ่นก่อนจำนวนมาก เรียกได้ว่า ไปกันไม่ถูกเลยทีเดียว โปรแกรมที่ตัวเองอยากใช้ต้องไปกดตรงไหนก็ไม่รู้ แม้แต่ปุ่มปิดเครื่องยังหากันไม่เจอเลย เอาไปซ่อนไว้ซะโคตรลึกลับ แต่ในมุมกลับกัน ผู้ใช้หน้าใหม่ ที่เคยชินกับ Touch Interface ผ่านการใช้งานอุปกรณ์ Smart Devices มากมายกลับไม่รู้สึกอะไรมากและก็ปรับตัวกันได้

Windows 8 จะมีหน้าจอสองโหมดด้วยกัน ซึ่งจะโหมดเก่าที่เราใช้งานกันทั่วไปก็คือ Desktop Mode .. ในโหมดนี้จะทำงานด้วย Mouse + Keyboard เป็นเรื่องปกติ และอีกโหมดนึงจะเรียกว่า WinRT ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้การ Touch เป็นหลัก และสไตล์หน้าจอแบบใหม่เพื่อการ Touch นี้จะเรียกว่า Metro UI

ด้วยการผสานกันระหว่าง 2 โหมดนี้ ทำให้ Windows 8 รองรับทั้งการทำงานในแบบเดิม และ การใช้งานกับ App ที่เน้นการ Touch เป็นหลักในแบบใหม่ เพื่อที่จะให้ผู้ใช้งาน ค่อยๆเปลี่ยนพฤติกรรมให้พร้อมเข้าสู่โลกของระบบ Touch แบบเต็มตัว

และเมื่อเวลาค่อยๆผ่านไปจนถึงเวลาที่ Windows 9 ออก .. ผู้คนจำนวนมากก็จะโดน Microsoft รีเซ็ตพฤติกรรมการใช้งาน Windows แบบเก่า จนสามารถทำงานผ่าน Touch Interface ได้แบบเนียนๆนั่นเองครับ

Windows 8 แก้ไขความยุ่งยากในเรื่องของการแบ่ง เวอร์ชั่น ที่เคยมีมาใน Windows ตัวก่อนๆ ได้อย่างดี เอาง่ายๆ อย่าง Windows 7 .. คุณจะเจอเวอร์ชั่นมากมายจนสับสนไปหมด ตั้งแค่ Windows 7 Starter ไปจนถึง Windows 7 Ultimate  ซัดไปทั้งหมด 6 แบบด้วยกัน แถมแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างวุ่นวายจนน่ารำคาญ ใน Windows 8 คุณจะพบกับ “เวอร์ชั่น” ง่ายๆแค่นี้ครับ

Windows 8 RT : เป็นเวอร์ชั่นในทำงานบน CPU ตระกูล ARM เท่านั้น พูดง่ายๆ ใช้แค่บน Tablet ไม่มี Desktop Mode โหลด App ทุกอย่างผ่านทาง Windows Store Apps อย่างเดียว

Windows 8 เฉยๆ : เป็น Windows 8 พื้นฐานที่มีความสามารถเพียงพอที่จะใช้งานในบ้านได้ทุกอย่าง เรียกได้ว่ามันคือ Windows 7 Home Premium นั่นเอง

Windows 8 Pro : เป็น Windows 8 ที่ใช้กันในองค์กร เพราะสามารถเชื่อมเข้าสู่ระบบ Active Directory ของ Microsoft ได้ รองรับความสามารถจำนวนมากที่ใช้ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น Group Policy , Remote Desktop , BitLocker , Encrypt File System และอื่นๆอีกมากมาย

Windows 8 Enterprise : เพิ่มเติมความสามารถที่ใช้ในองค์กรให้มากขึ้นไปอีก รองรับความสามารถอย่าง App Locker , Windows to Go (ชอบมาก แปลง Windows ลง FlashDrive แล้วเอาไปบูทเครื่องไหนก็ได้จะเป็น Windows ของเราที่ไปทำงานได้ทุกที่ ) รองรับความสามารถด้าน Security บน Network อย่าง Direct Access และ Branch Cached .. ซึ่งผู้ใช้ตามบ้านอย่างเราไม่รู้จะเอาไปทำอะไร

ภากจาก Technolomo.com

และที่สำคัญมันเป็น Windows ที่ราคาถูกที่สุดตั้งแต่ Microsoft ทำราคามาเลยทีเดียว.. ถ้าคุณมี License Windows ตัวเก่าเช่น Windows XP , Vista ,7 ของแท้อยู่แล้ว สามารถอัพเกรดในราคาแค่ 1,990 บาท

ส่วนถ้าเกิดไม่เคยมี License Windows มาก่อนเลย อยากจะเริ่มต้นแบบซิงๆ ตัว Windows 8 ราคาแค่ 3,999 บาท และ Windows 8 Pro ราคา 5,390 บาทครับ

และสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนพฤติกรรม ผมอยากจะให้ลองดู 10 Feature เทพของ Windows 8 ที่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกจนอยากจะมาลองใช้ Windows 8 ตัวนี้ด้วยกันนะครับ

Boot เร็วขั้นเทพ

ภาพจาก Howtogeek.com

ในโลกที่อุปกรณ์ Smart Device เปิดปุ๊บ มาปั๊บแบบนี้ ขืนทำระบบปฏิบัติการที่บูททีนึง ก็วิ่งไปต้มมาม่าได้ มีหวังบรรลัยกันพอดี ดังนั้นใน Windows 8 มีการรื้อระบบบูทใหม่ทั้งหมด ทำให้มันใช้เวลาในการบูทน้อยลงอย่างมาก ถ้าเครื่องคุณแรงๆ + ใช้ SSD ล่ะก็ คุณจะใช้เวลาในการบูทแค่ 7-10 วินาที และตื่นจากการ Sleep ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 วินาทีเท่านั้น

สำหรับสาเหตุของการที่มันบูทได้แรงมหาศาลขนาดนี้ ผมจะเอามาเล่าละเอียดๆทีหลังนะครับ มันเยอะมาก แต่ถ้าใครอยากไปอ่านก่อน ก็สามารถไปอ่านได้ที่นี่เลย [Delivering Fast boot time in Windows 8]

System-Wide Search

ภาพจาก zdnet.com

ระบบค้นหาขั้นเทพ อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่า Microsoft ได้เอาปุ่ม Start ออกไป หลายคนงงว่าจะเข้าโปรแกรมsหรือจะหาอะไรเจอได้ยังไง วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ พิมพ์ชื่อโปรแกรมของคุณแล้วก็เข้าโปรแกรมไปเลยครับ ในหน้า Start Screen ของ Windows 8 ที่ดูเหมือนจะไม่มีช่องให้พิมพ์น่ะครับ พิมพ์คำที่คุณอยากจะได้เข้าไปเลย แล้วตัว Windows 8 จะแสดงผลการค้นหาออกมาให้ เพราะระบบ Index ของ Windows 8 เทพมากๆ  ที่สำคัญ คุณสามารถพิมพ์ชื่อโปรแกรม แค่บางส่วนก็สามารถเรียก โปรแกรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ คำค้นหานั้นๆออกมาได้ แถมยังลากไฟล์อื่นๆที่ชื่อคล้ายกับคำค้นหามาได้อีกต่างหาก ที่สำคัญเป็น Realtime Search ครับ กดปุ๊บมาปั๊บ ไม่ต้องรอ!!

Share Everything

ภาพจาก pcadvisor.co.uk

ในยุคแห่ง Social Network ที่ใครๆก็อยากจะแชร์เรื่องราวดีๆที่ไปเจอมาในชีวิต ทาง Microsoft ก็เลย ทำให้ Windows 8 มีปุ่ม แชร์ติดอยู่กับ Charm .. เมนูบาร์ตัวใหม่ที่อยู่ด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งจะซ่อนเอาไว้อยู่เสมอ อยากได้ค่อยลากออกมาครับ ในนั้นจะมีปุ่ม Share อยู่ ซึ่งเราสามารถ ส่งต่อข้อมูลหน้านั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์รูปผ่านทาง Email , Facebook , Twitter .. แชร์หน้าเว็บ และอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงการแชร์ไปยัง App อื่นๆใน Windows 8 ด้วย อันนี้จะคล้ายๆของ Android แต่ข้าม Platform มาทำงานบน Windows 8 นั่นแหละครับ

Picture Password

อุปกรณ์ Smart Device ทั้งหลายก็มีวิธีป้องกันตัวเองด้วยการใส่ Password ก่อนเข้าใช้เครื่องซึ่งผมอยากจะบอกเลยนะครับว่าพวกคุณควรจะทำกันทุกคน เพราะเดี๋ยวนี้ Smartphone , Tablet มันเชื่อมเข้ากับชีวิตเราเยอะมาก คุณเผลอไปลืมมือถือที่ไหน หรือโดนใครขโมยไป ก็เท่ากับเค้าขโมยชีวิตออนไลน์คุณไปด้วยนะครับ ซึ่งทุกที การตั้งรหัสผ่านก็จะใช้ PIN 4 ตัว หรือ Password ยาวๆ  ต่อมาภายหลัง Android ใช้วิธีป้องกันแบบ Pattern คือลากเส้นตามจุดที่คุณตั้งเอาไว้ครับ แต่วิธีก่อนหน้านี้จะโบราณไปเลยเมื่อเทียบกับ Picture Password ของ Microsoft .. เพราะคุณสามารถเอารูปอะไรก็ได้มาเป็นภาพตั้งต้น แล้วก็จะลากตรงไหนก็รูปเพื่อสร้าง รูปแบบรหัสผ่านของคุณขึ้นมา …  จะลาก หรือ จะกดเป็นจุดๆ ยังไงก็ได้ ยอมรับว่ามันเป็นเทคนิคในการล็อคเครื่องที่แจ๋วจริงๆครับ

Refresh and Reset

เมื่อก่อนเวลาที่ Windows ของเรามีปัญหา ทางออกเดี่ยวที่เเราทำกันแบบสิ้นหวังก็คือ Format ลง Windows ใหม่มันซะเลย ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการข้อมูลหาย แถมยังต้องปวดหัวลงโปรแกรมใหม่ ต้องหาแผ่นมาลง หาไม่เจอก็เดือดร้อนอีก และเรื่องปวดหัวอื่นๆอีกมากมาย .. ใน Windows 8 เราสามารถใช้ความสามารถ Refresh เพื่อคืนค่า เริ่มต้นให้ Windows เราได้โดยที่ข้อมูลส่วนตัวของเราไม่หาย และสำหรับ Reset คือการล้างกระดานทุกอย่างของ Windows 8 ของเราให้กลายเป็น Windows ใหม่สดเหมือนออกมาจากโรงงาน ยังไง ยังงั้นเลยล่ะครับ

Sync Your Setting

เวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราเสีย แล้วเราจะต้องไปทำงานบนเครื่องเพื่อน ความน่าปวดหัวก็คือ ของคุ้นเคย ค่า Setting , Shortcut และอื่นๆ ของเครื่องเรามันไม่ได้ตามมาด้วยใช่ไหมครับ แต่ด้วยระบบ Sync Your Setting .. จะทำให้ Shortcut , iCon , Wallpaper , Mail Setting และอื่นๆอีกมากมายของคุณถูก Backup ไว้บนระบบ Cloud Computing ของ Microsoft .. เมื่อเกิดปัญหาที่คุณจะต้องย้ายไปทำงานเครื่องอื่น คุณก็แค่ Sign-in ชื่อของคุณเข้าไปแล้วรอซักครู่ .. ค่า Setting ทั้งหลายที่เป็นอาวุธคู่มือคุณ มันจะกลับมาหาคุณในพริบตาครับ

Snap View

ภาพจาก xgmedia.com

อุปกรณ์อย่าง Tablet จะมีปัญหาน่าปวดหัวในการทำงานแบบ Multi-Tasking หรือเปิด App หลายๆตัวพร้อมกันมาตลอดนะครับ อย่าง iOS ก็ใช้วิธีทำให้ App ตัวนั้นหลับไว้ แล้วก็ สลับไป-สลับมา ตอนทำงาน , ของ Android ก็สามารถรัน App อื่นๆไว้เบื้องหลังได้เลย แต่ก็ต้องแลกกับหน่วยความจำที่เสียไปอย่างมหาศาล ทำให้ใช้งานได้ช้า .. และสำหรับ Windows ที่ชำนาญด้าน Multi Tasking มาโดยตลอด วิธีที่เค้าใช้ก็คือ Snap View ครับ มันคือการที่คุณสามารถย่อ App อะไรก็ได้ ไปอยู่ข้างซ้าย หรือ ขวา แล้วพื้นที่ๆเหลือ สามารถใช้ทำงานได้ เช่น เปิด App Music อยู่ด้ายซ้าย ไว้เป็นแถบเล็กๆ แล้วก็เปิดเบราเซอร์ไว้ทางขวาเพื่อดูหน้าเว็บไปเรื่อยๆ สามารถพลิกแผลง Snap View ได้หลายแบบ เป็นหนึ่งใน Feature ที่คนใช้งาน Tablet ต้องชอบมากๆเลยล่ะครับ

Pin Anything

สำหรับคนที่คิดว่า หน้าจอ Start Screen แบบใหม่ที่เป็น Metro UI มันน่าจะปรับแต่งยาก หรือ นึกไม่ออกว่าจะเอาสิ่งที่ตัวเองอยากได้มาแปะหน้าแรกยังไง อันนี้ง่ายมากๆเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร รูป เพลง หนัง โปรแกรม หรืออะไรก็ช่างครับ คุณสามารถเอามันมา ปักหมุด หรือที่เรียกว่า Pin ไว้หน้าแรกได้ด้วยการคลิกขวาที่ไฟล์นั้นๆ แล้วเลือก Pin to Start ครับ แค่นั้น ก็จะลอยมาอยู่หน้า Start Screen ทันที หลังจากนั้น จะขยาย จะย่อ จะลากไปวางที่ไหน ก็ตามแค่คุณจะชอบเลยครับ เพราะเราสามารถออกแบบ หน้า Start Screen แบบไหนยังไงก็ได้ตามใจคุณ

Keyboard Command

ทุกทีเวลาที่เราจะใช้พวก Shortcut ในการเรียกความสามารถอะไรต่างๆขึ้นมา เราจะใช้ปุ่ม Windows + อะไรซักอย่างใน Windows ใช่ไหมครับ ซึ่งใน Windows 7 ก็จะมีให้ระดับนึง แต่ใน Windows 8 .. พวก Shortcut แบบใหม่จะถูกสร้างมาให้เพียบเลยครับ ผมขอยกตัวอย่างอันที่ผมชอบใช้บ่อยๆนะครับ

  • Windows + C : เปิด Charm Bar
  • Windows + H : แชร์อะไรก็ตามที่อยู่บนหน้าจอ ผ่าน Charm Bar
  • Windows + O : ล็อคหน้าจอไม่ให้เอียงตามเครื่อง
  • Windows + V : ดู Notification ทั้งหมด
  • Windows + Prtscn : Capture หน้าจอแล้วเก็บภาพไว้ใน My Picture
  • Windows + Break : เปิด System Monitor
และอื่นๆอีกมากมายยาว 3 หน้ากระดาษ ถ้าอยู่เห็น Shortcut ทั้งหมด ไปที่ http://www.redmondpie.com/this-extensive-list-of-windows-8-keyboard-shortcuts-will-help-you-adapt-to-the-new-interface/ 
 Internet Explorer 10
มีเสียงค่อนขอด Microsoft อยู่บ่อยครั้งจากนักพัฒนาเว็บมากมายว่า IE6 ห่วย , IE7 แย่ , IE8 ช้า.. แต่เสียงบ่นด่าเหล่านั้นเริ่มบางลงใน IE9 และ ด้วย IE10 ซึ่งเป็นเบราเซอร์ตัวล่าสุดจาก Microsoft ที่มีความสามารถเด็ดๆเพิ่มขึ้นมากมาย เช่น
  • ผนวก Flash Player เข้ามาเลยในตัวโดยที่ไม่ต้องไปโหลดเพิ่ม
  • รองรับ CSS3 และ HTML5
  • รองรับ Hardware Accelerator สามารถใช้การ์ดจอช่วยประมวลผลหน้าเว็บได้
  • ใน IE10 ที่เป็น Metro UI ก็รองรับ Flash เช่นเดียวกัน
  • เปิดโหมด InPrivate Browsing  หรือเล่นเน็ตแบบไร้ตัวต้น เป็นค่าตั้งต้นของการใช้งาน

และนี่ก็คือ 10 Features เจ๋งๆบน Windows 8 ที่ผมอยากจะให้ทุกคนได้ลองกันครับ ยังไงซะ โลกก็ต้องขับเคลื่อนด้วย Windows 8 อยู่ดี เพราะตอนนี้ Microsoft ก็ประกาศหยุดการสนับสนุน Windows XP แล้ว ส่วน Vista ก็ใกล้เต็มทน .. และสำหรับ Windows 7 ที่ตอนนี้เป็น Windows ที่คนเลือกใช้อันดับ 1 อยู่ ก็อาจจะต้องค่อยๆส่งไม้ต่อให้กับ Windows 8 เพราะราคาอัพเกรดถูกเหลือเกิน ผมยังสอยกับเค้ามาด้วยตั้ง 2 ชุดแน่ะครับ

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

167 comments

  1. เพื่อนไอที่

    ละเอียดเยอะมากค่ะ ใช้งานครั้งแรกรู้สึกได้ทันทีว่า ยังไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่พอใช้งานไปนานๆ กลับรู้สึกว่าสะดวก สวยงาม มีอะไรให้เล่นอีกมากมาย และสุดท้ายชอบรายการแบไต๋ ไฮเทคมากค่ะ ติดตามอาจารย์ศุภเดช มาตลอด

  2. แล้วถ้าสมมุติโน๊ตบุคบางรุ่นไม่มีไดรท์เวอร์ หรือว่าทางบริษัทไม่อัพไดรท์เวอร์ของคอมรุ่นนั้นแล้วให้แค่ win 7 เราจะสามารถใช้ win 8 ได้มั้ยครับ อาจารย์

  3. windows 8 ในมือถือ มันเหมือนและแตกต่างจาก windows 8 และ windows RT อะไรบ้างครับ

  4. วัฒนา

    อาจารย์ครับ ขอสักตอนนึงได้ไหมครับ สำหรับมือใหม่จริงๆ ซื้อโน้ตบุ๊คมาควรทำอะไรกับมันบ้าง เช่น ควรลงโปรแกรมอะไรบ้าง ควรต้ังค่าอะไรยังไง do’s and don’ts (ข้อควรทำและข้อไม่ควรทำ) ที่จริงลามไปถึงมือถือด้วยก็ดีครับ กรุณาด้วยเถิดครับนึกว่าชี้ทางสว่างให้กับคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องไอทีแบบพวกผม เขียนเป็นหนังสือขายหรือบรรยายเป็นดีวีดีก็จะตามไปซื้อมาดูครับ
    วัฒนา

Leave a Reply