Home -> Review -> Samsung S4 Rally และการจับได้เรือธงของ Samsung เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย

Samsung S4 Rally และการจับได้เรือธงของ Samsung เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย

พึ่งกลับจากการไปร่วมกิจกรรม S4Rally ที่ทาง Samsung จัดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าแบบ Premium และ Blogger ได้จับเครื่อง Samsung Galaxy S4 ก่อนใครในประเทศไทย (ยกเว้นทีมงาน) เป็นกิจกรรมท่ี่สนุกมากจนเผลอนึกว่ากำลังได้เล่นเกมเชว์เกาหลีอยู่เลย ก็เลยจะมาอัพเดทให้ฟังกันซะหน่อยว่าการไปวิ่ง สู้ฟัด ครั้งนี้กับทาง Samsung มันโหดตับแลบแค่ไหน ลองอ่่านกันดูเลยครับ

เมื่อวันที่ 7-8 เมษายน 2013 .. ทาง Samsung ก็ได้รวบรวมเอา Blogger + สื่อด้่านมือถือ และ ลูกค้าระดับ Premium ของทาง Samsung ทั้งหมด 40 คนมารวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่ของ Samsung ประเทศไทยที่ตึก Empire Tower .. ตอน 8 โมงเช้า วันอาทิตย์ครับ โอวว เป็นเวลานัดที่โหดมากๆสำหรับชาว Geek ผมเห็นหลายคนเดินมาเป็นซอมบี้เข้างานมาเลยล่ะ

DSC03209

Blogger และสื่อมากมายก็มี @kafaak , @jetboat26 ทีมงานจาก MXPhone , PDAMobiz , Droidsans และอื่นๆอีกมากมายเลยครับ

DSC03206

เมื่อมาถึงแล้วก็ลงทะเบียนตามทีมต่างๆ ซึ่งทาง Samsung เค้าเตรียมทีมไว้ให้ผมกับ @joyz แล้ว นั่นคือทีม 10 ครับ โอวว เลขโปรดเลยล่ะ

DSC03212

รวมตัวทีม 10 ซึ่งมี ผม , @joyz , @macroart จาก Pantip.com และ @pinnynoy ซึ่งเป็น Beauty Blogger .. ซึ่งทีมนี้เค้าเรียกกันว่าทีมคู่รักครับ อิอิ

DSC03218

คุณกังที่เป็น Project Manager ก็ได้อธิบายถึงความสามารถของ Samsung Galaxy S4 .. ซึ่งพวกเราที่เป็น Tech Blogger น่ะ ชำนาญกันอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมี Beauty Blogger ที่เป็นสายความงามกับ LifeStyle มาด้วย จึงต้อง Brief เพิ่มเติมกันซักเล็กน้อยครับ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นการเล่าความสามารถเทพๆของ Samsung Galaxy S4 … ทางทีม Samsung ประเทศไทยก็ได้ยกเอากล่องแบบเดียวกับที่ใช้เปิดตัวในงาน Samsung Unpacked .. เพื่อให้เราได้ Unpack เจ้า Samsung Galaxy S4 ออกมาด้วย

DSC03221

ในที่สุดก็ได้ทดลองจับตัวเป็นๆของ Samsung Galaxy S4 ซะที ขนาดเท่าๆกับ S3 แต่พื้นที่แสดงผลจอใหญ่มากขึ้น และเปลี่ยนแนวทางการออกแบบจากโค้งๆใน S3 ให้กลายเป็นตรงๆ ทำให้จับถนัดมือมากขึ้น

DSC03229

 

หลังจากนั้นก็ได้เวลาออกไป Rally ครับ… ซึ่งทั้ง 40 คนจะต้องเดินทางกับพี่เลี้ยงซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ Samsung ไปบนรถตู้คนละคันแถมยังมี ทีมงานด้านอื่นตามไปอีก เรียกได้ว่าคนเยอะสุดๆเลยครับงานนี้เป็นคาราวานขนาดใหญ่มากเลยทีเดียว

DSC03230

ความมันส์ของ Rally ครั้งนี้คือ คนขับรถของเราจะไม่รู้เลยว่าต้องไปที่ไหน เราจำเป็นจะต้องรอรับคำใบ้จากทางเจ้าหน้าที่ Samsung ผ่านโปรแกรม ChatOn ซึ่งเป็นโปรแกรมติดต่อสื่อสารที่ใช้ในการ Rally ครั้งนี้ครับ

IMG_0875

หลังจากที่รอซักพัก .. คำใบ้แรกก็มาครับ .. ร้านขนม ที่มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสบน Life Style Mall แห่งแรกบนถนนพระราม 2 .. ฮ่าา ผมว่าใครที่ไปหัวหินบ่อยๆน่าจะนึกออกแล้วล่ะสิว่าเป็นที่ไหน ผมและคนในทีมเราก็รู้กันทันทีว่ามันคือ Porto Chino ตรงพระราม 2 แต่ไอ้ร้านขนมที่ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสนี่สิมันร้านอะไรฟระ ว่าแล้วก็ค้นหากันอย่างเมามันส์ ระหว่างนั้นก็ต้องบอกทางให้พี่คนขับด้วย เพราะอย่างที่บอกไว้นะครับ พี่คนขับแกไม่รู้เลยว่าต้องไปที่ไหน

IMG_0877

พอมาถึง Porto Chino เราก็วิ่งๆๆ ค้นหากันใหญ่ว่าร้านขนมนี้มันอยู่ที่ไหน ปรากฏว่าอยู่ที่ชั้น 2 ครับ มีบางทีมไปถึงบ้างแล้ว ซึ่งเมื่อเราไปถึงเราก็ต้องรับ คำสั่ง จากทีมงาน Samsung โดยชุดคำสั่งส่งมาเก๋มากๆน่ันก็คือ ส่งด้วยความสามารถ S-Beam ของ Samsung ครับ ซึ่งคำสั่งของด่านนี้ก็คือ

ให้แบ่งทีม 4 คนออกเป็น 2 ทีม โดยที่ทีมนึงจะต้องออกเดินไปยังเป้าหมาย ส่วนอีกทีมนึงจะต้องบอกทางจากแผนที่ โดนที่ ห้ามใช้ เสียง และ มือครับ ทำได้โดยการใช้หน้าเท่านั้น …

ซึ่งด่านนี้ก็จะเป็นการโชว์ความสามารถ Dual Camera ที่สามารถ คุยไปด้วย ถ่ายภาพกล้องข้างหน้าของ Samsung Galaxy S4 ในการนำทางไปด้วยนั่นเอง ซึ่งปลายทางที่ผมได้รับมาก็คือ ฟูจิ ที่อยู่ใน Porto Chino ครับ ผมจะต้องนำทางให้ @macroart และ @pinnynoy ไปถึงร้านให้ได้โดยที่ไม่ใช้เสียง

ก็ลองนึกสภาพแต่ละทีมทำหน้าเหยเก บอกเพื่อนร่วมทีมให้เลี้ยวซ้าย หรือ ขวานั่นแหละครับ โคตรตลกเลย แต่ตอนหลังมีปัญหาก็คือระบบ 3G มันดันสะดุดครับ เลยทำให้คุยภาพกันต่อไม่ไหว ทางทีมงาน Samsung ก็เลยอนุญาตให้ใช้เสียงบอกทางได้ครับ เลยค่อยยังชั่วกันหน่อย

ซึ่งทีม 10 ของพวกผมก็ทำภารกิจได้ที่ 2 . ได้รับคะแนนมา 4 คะแนน … จากนั้นก็ขึ้นรถแล้วก็รอคำใบ้ที่ด่านต่อไปกันเลยครับ

ต้องขออภัยที่ภาพช่วงนี้ไม่อยู่ เพราะผม Capture ไว้ในเครื่องที่ผมได้รับตอนเล่นภารกิจ แต่ตอนเสร็จภารกิจทั้งหมด ทางทีมงานเก็บเครื่องกลับไปเลย ไม่ได้ Backup รูป คำสั่งตอนเล่นภารกิจเอาไว้ เลยไม่มีรูปมาโชว์ จะพยายามเล่าประกอบให้เห็นภาพกันชัดๆนะครับ

คำใบ้ที่ 2 ก็คือ .. แกะครับ .. โอ๊ย หมูอีกแล้วววว .. พึ่งจะไปเที่ยวแล้วก็เขียนรีวิวมาเมื่อเดือนก่อนเอง ปลายทางที่ 2 ของเราก็คือ Swiss Sheep Farm ที่ตั้งอยู่เลย Santorini ไปหน่อยนึงครับ เมื่อรู้แล้วก็บอกคนขับกันเลย

ไอ้ตอนที่จะเดินทางไป Swiss Sheep Farm ผมก็นึกว่าจะได้นั่งชิลๆ ขอหลับระหว่างทางเพราะตื่นมาโคตรเช้า ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ Samsung ก็ส่งเกมมาให้แข่งกันระหว่างทีมอยู่เรื่อยๆ เช่น แข่งกันถ่ายรูปปั๊มน้ำมันด้วยกล้องของ S4 ใครถ่ายรูปได้เยอะสุดคนนั้นชนะ .. เวรกรำแบบนี้ก็ไม่ได้นอนสิฟระเนี่ย

ตอนนี้ก็เลยต้องนั่งมองข้างทางหาปั๊มน้ำมัน แล้วก็แข่งกันถ่ายรูปส่งไปกันระหว่าง 10 ทีม ซึ่งช่วงนั้นในห้อง ChatOn ทั้ง 10 ทีมก็จะเกรียนใส่กัน บลัฟใส่กันยกใหญ่ครับ อ่านไปฮาไป โคตรมันส์แล้วก็ตื่นเต้นเลย

IMG_0879

และเมื่อถึง Swiss Sheep Farm พวกเราก็วิ่งเฮโล กันลงไปหา Checkpoint แล้วก็รับคำสั่งครับ แน่นอนยังเป็นการรับคำสั่งด้วย S-Beam เหมือนเดิม โดยที่รอบนี้ ให้ใช้ความสามารถ ที่เรียกว่า Animated Photo สร้างภาพเคลื่อนไหว แค่จุดเดียวขึ้นมาครับ โดยที่ เราจะต้องหา

  • ภาพสัตว์ที่ไม่มีชีวิต แล้วถ่ายมา 2 รูป
  • ภาพ แกะดำ หรือ ห่านดำ แล้วถ่ายมา 1 รูป

ซึ่งแน่นอนว่า สัตว์ดังกล่าวมันมีอยู่เต็ม Swiss Sheep Farm นี่แหละครับ วิ่งออกไปแค่ 5 นาทีก็มีฝูงแกะซอมบี้เข้ามารุมล้อมเราแล้ว แต่ความยากมันอยู่ที่ต้องจับน้องแกะมาอยู่นิ่งๆแล้วถ่ายนี่แหละ ก็เลยเข้าใจว่า เออเนอะ ใช้ Animated Photo แล้วให้น้องแกะขยับ ส่วนเราอยู่นิ่งๆไป ภาพก็ออกมาน่ารักดี ส่วนภาพสัตว์ที่ไม่มีชีวิตเราก็แค่ขยับของเราเองเท่านั้นแหละ

และแน่นอน ภาพที่ถ่ายมา ก็หายไปกับเครื่อง ตอนที่โดนสลับมือถือตอนเสร็จงานเช่นเคยครับ ฮ่าๆ …

ถัดจากฟาร์มแกะ เราก็ทำภารกิจได้เป็นที่ 2 อีกเช่นเคยครับ ทีมที่หนึ่งในตอนนั้นคือทีมนี้ครับ  ทีมของ @octopatr แฟนพันธ์แท้สมาร์ทโฟนคนใหม่นี่เอง ให้ตายสิ

IMG_0880

ถัดจาก Swiss Sheep Farm ทุกทีมก็โดดขึ้นรถ แล้วก็รอรับคำใบ้ถัดไป ซึ่ง ทางทีมงานก็จะให้ค้นหาร้านอาหารหรู ริมทะเล โดยอาศัย Keyword ที่ทาง Samsung ให้มา ผ่าน App Galaxy Eat Out .. ซึ่งเป็น App ที่ทาง Samsung ทำงานร่วมกับ Wongnai ..เว็บที่เป็น Social Network ด้านอาหารที่ใหญ่สุดของไทยในตอนนี้ ซึ่ง เมื่อเราเปิด App เพื่อหาชื่อ เราก็ใช้ Google Maps นำทางมาเรื่อยๆ โดยที่ปลายทางก็คือ ร้าน พุทธรักษาครับ

DSC03239

จุดนี้ก็ไม่มีแข่งขันอะไรมาก เป็นแค่การพักทานข้าวกันเท่านั้นครับ … ซึ่งทุกคนคงเหนื่อยจากการวิ่งไล่ถ่ายน้องแกะกัน เลยทำให้ซัดโฮกกันเป็นแถว ซึ่งหารู้ไม่ มันมีหายนะรออยู่ข้างหน้าครับ เหอๆ…

DSC03282

แน่นอนว่า ทีม 10 เราหลังจากกินข้าวเสร็จก็เลยออกมาถ่ายรูปหมู่ ตอนกระโดดริมทะเลกันไว้ซักหน่อย อิอิ…

IMG_0888

และในจุดถัดมา … คำใบ้บอกให้เรามาทำภารกิจที่ร้านเค้ก ชุบชีวา ร้านขนมชื่อดังแห่งหนึ่งของหัวหิน ซึ่งด่านนี้แหละครับเป็นด่านที่ทำให้ทุกคนต้องพบกับความสยองพองขน เพราะเมื่อเราเอาเครื่องมารับโจทย์เราก็พบกับโจทย์ที่เป็นภาพจำนวน 20 กว่าภาพ ปนอยู่กับไฟล์กติกาโดยที่เราจะต้อง

  1. จัดลำดับคนที่จะต้องกินเค้ก (ชิ้นใหญ่ชิปเป๋ง) คนละ 1 ชิ้น
  2. การกิน ห้ามใช้เครื่องมือใดๆโดยเด็ดขาด ต้องใช้มือเท่านั้น
  3. เมื่อกินเสร็จ ให้ใช้ความสามารถ Air Gesture ในการเลื่อนรูปไปจนกว่าจะเจอรูปโจทย์ที่ถูกต้องแล้วให้เพื่อนวิ่งไปกินเค้กโจทย์ชิ้นต่อไป
  4. ทำให้ครบแล้วให้กรรมการตรวจโดยที่กรรมการจะโทรเข้ามาที่เบอร์ของเครื่องเรา ให้เรารับด้วยความสามารถ Air Gesture อีกเช่นกัน ถ้ารับได้ก็ผ่าน

ความสามารถ Air Gesture ก็คือ เราสามารถใช้มือปาดไปบนหน้าจอโดยที่ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เพื่อใช้เลื่อนรูป เว็บ หรือใช้รับสายโทรศัพท์ได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ดีมาก เหมาะกับตอนที่มือเราเลอะเค้กอย่างนี้เป็นที่สุดอ่ะครับ

แน่นอนครับ ทุกคนซักโฮก อาหารทะเลมาเต็มคราบจากร้านพุทธรักษามาชนิดแทบตัวแตก ต้องมาแดกเค้กอีกคนละชิ้นยักษ์ งานนี้หน้ามืดกันเป็นแถวครับ

IMG_0889

ทีมเราก็ค่อยๆทำไป โดยที่คนอื่นอ่ะ กินกันไม่ไหวแล้ว แต่ผมนี่ยังชิลๆมาก เลยซัดโฮกหมดไปแปบเดียว ซึ่งตอนแข่งกิน ก็กินอันเดียวกับคุณ @octopatr ด้วย แต่ของผมกัด 4 คนหมดชิ้นในพริบตา ด่านนี้พวกเราเลยชนะมาเป็นที่ 1 ครับ

IMG_0891

วิ่่งมารับโทรศัพท์ที่ทางทีมงานโทรเข้ามาโดยใช้ Air Gesture นี่มันก็สนุกดีนะ เพราะมือพวกเราเลอะชนิดที่แบบ มองหาจุดที่สะอาดๆไม่ได้เลยล่ะครับ

IMG_0892

เมื่อเสร็จจากภารกิจนี้แล้ว ทุกคนก็ขึ้นรถเพื่อไปยังด่านสุดท้ายที่ต้องขอบอกว่า … สยองพองขนอีกแล้วครับ ฮ่าๆ….

DSC03316

สถานที่พักของเราในทริปนี้ก็คือ รีสอร์ทที่ชื่อว่า Let’s Sea.. ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนในฝันของหลายๆคนเลยล่ะครับ ผมเองเคยอ่านรีวิวที่นี่หลายครั้งแล้ว ยังอยากมาสุดๆ แต่เสียอย่างเดียว ค่าห้องที่แพงมหาประลัย เลยยังไม่ได้มาซักที งานนี้ Samsung จัดเต็มเพื่อ Blogger จริงๆแฮะ

DSC03317

ภารกิจในด่านนี้ก็คือ ให้ถ่ายรูปทุกคนด้วย Drama Shot ให้ออกมาสวยๆ … ฮ่าๆ ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆแล้วมันยากมากเลยครับ

ความสามารถ Dramashot ของ Samsung ก็คือ การถ่ายภาพแล้วบันทึกบางส่วนของภาพทิ้งเอาไว้เป็นเหมือนภาพติดตาครับ ซึ่งการที่เราจะทำภาพติดตาให้มันสวยๆ มันจะต้องเคลื่อนไหวให้เร็วมากๆ ถึงจะได้ภาพดีๆครับ และแน่นอนหลังจากที่ซัดโฮกทั้งอาหารทะเล และ เค้ก คราวนี้จะให้มาวิ่งเร็วๆอีก .. โอ้มายก็อด

20130407_153428

ซึ่งภาพๆของพวกเรา เรายังไม่รู้วิธิที่จะถ่าย Drama shot ให้มันได้เนียนๆครับ ก็ลองเดิน กระโดด หมุนตัว ทำกันหลายท่ามาก ภาพก็ยังดูเหมือนขาดๆเกินๆกันอยู่นั่นแหละ

20130407_153259

พยายามถอยระยะออกมา หรือเขยิบเข้าไป ภาพก็ยังไม่ได้ดี สุดท้ายเลยทดลอง เอาให้มันเร็วๆเข้าว่าไปเลยนั่นก็คือ วิ่งครับ

20130407_153537

ปรากฏว่าภาพออกมาโคตรเท่เลยคร้าบ

หลังจากที่เราได้ภาพทั้งหมด เราก็ส่งการบ้านแล้วก็เข้าไปพักผ่อนในโรงแรม ซึ่งรอซักพัก ตอนนี้ @joyzstick คงกำลังเขียนรีวิวอยู่ว่า Let’s Sea มันเทพแค่ไหนครับ

DSC03323

ภาพบรรยากาศ ซึ่งเรายกโขยงกันมาเกือบๆ 80 คนงานนี้แทบจะปิด Let’s Sea ปาร์ตี้กันเลยล่ะครับ

ที่ผมเล่ามาข้างบน นั่นก็คือ ฟีเจอร์บางส่วนของ Samsung Galaxy S4 เท่านั้น ซึ่งเป็น Feature ผมมองรู้สึกว่า บางอันมีก็ดี บางอันไม่มีก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับโอกาสเท่านั้นแหละว่าจะได้ใช้หรือเปล่า ซึ่งจริงๆแล้ว ฟีเจอร์ที่ผมยกให้ว่าเทพจริงๆ คือความสามารถที่เรียกว่า Eraser Shot ครับ

2013-04-08 15.08.16

2013-04-08 15.08.25

Eraser Shot จะถ่ายภาพเก็บไว้ประมาณ 5-6 ภาพ โดยที่จะคำนวนพื้นหลังว่ามีใครเดินผ่านบ้าง โดยจะเอาคนออกให้หมดครับ เหมาะกับการไปถ่ายรูปหมู่ในสถานที่ๆมีคนเยอะๆ แต่ไม่อยากให้ใครมาเดินผ่านหน้า ผ่านหลัง เราก็จะได้ผ่านเทพๆอย่างในรูปนี่แหละครับ เป็นไงแจ๋วไหม อิอิ

2013-04-09 17.21.55

อีกอันที่ผมเชื่อว่าจะเป็น Killer Feature ของ Samsung ก็คือ S-Health ครับ เพราะตอนนี้กระแสของ Wearable Computer กำลังจะมา มือถือจะต้องกลายเป็น Health Tracking Device ที่คอยตรวจสอบการใช้ชีวิตของเรา โดยที่ S-Health สามารถตรวจสอบการออกกำลังกาย สภาวะเหมาะสมในการมีชีวิต อาหารการกิน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี Android ยี่ห้อไหน ชูจุดเด่นด้านนี้เลยครับ

ความสามารถ Dual Camera เหมาะมากสำหรับการทำรายการประเภทสัมภาษณ์นะ เพราะเราสามารถ เห็นทั้งเราและคนสัมภาษณ์ไปด้วยพร้อมๆกันได้

จากฟีเจอร์มากมายมาดูตัวเครื่องกันบ้างดีกว่า มาดูหน้าตา รอบตัวกันซักเล็กน้อยก่อนละกันนะครับ โดยที่เครื่องรีวิวที่ผมได้รับมา คือสีดำ (Black Mist) ซึ่งสีของเครื่อง S4 ที่เรียกว่า White Frost นั้น ตอนนี้มีตัวเดียวในประเทศไทยซึ่งถือโดยพี่วิชัย พรพระตั้ง Vice President ของทาง Samsung ประเทศไทยครับ

DSC03463

Body ทั้งตัวทำจากพลาสติกประเภท โพลีคาร์บอเนตครับ แต่มีการออกแบบลายให้ดูเหมือนโลหะ..แต่จริงๆแล้วเป็นพลาสติกเคลือบมันนะครับ แต่จับแล้วไม่ค่อยลื่นเหมือน Galaxy S3
DSC03464

ด้านหลังแบบเต็มๆ  ตรงกลางเป็นกล้องหลัง 13 ล้านที่มาพร้อมกับ LED Flash แล้วด้านล่างที่เป็นเส้นเล็กๆ 2 เส้นนั่นก็คือ รูสำหรับลำโพงครับ

DSC03466

หน้าจอ 4.99 นิ้ว ที่มีความละเอียด 1,920 x 1,080 pixel .. พร้อมจอ Super AMOLED ความหนาแน่นของ Pixel สูงถึง 441 ppi เทียบเท่า มือถือตัว Top จากหลายๆค่ายครับ

DSC03467

ขอบข้างของ Samsung Galaxy S4 จะเป็นเส้นตรงแล้ว ไม่เหมือนกับ S3 ที่จะเป็นขอบโค้ง ทำให้จับแล้วหลุดมือง่ายมากใน S3 .. ผมถือว่าเป็นการแก้ Bug ด้านการออกแบบที่ดีมากครับ (S3 เครื่องเก่าผม หล่นไป 3 รอบ จอแตกเป็นเสี่ยงไปรอบนึง)

DSC03469

ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม อยู่ด้านบน ซึ่งคราวนี้ทาง Samsung ประเทศไทยบอกว่า หูฟังที่แถมให้มาในกล่องคราวนี้จะเป็นหูฟังคุณภาพสูงที่ใช้ฟังเพลงได้อย่างดีมากด้วยครับ

DSC03476

เคยมีการถามไปยัง Samsung ว่า ทำไมถึงเลือกใช้วัสดุที่เป็นพลาสติก ทั้งๆที่้เจ้าอื่นจะพยายามทำให้วัสดุดูพรีเมี่ยม สมราคา 2 หมื่นกว่าบาท ทาง Samsung ให้เหตุผลว่า เพื่อความทนทานต่อแรงกระแทก และ ความเร็วในการผลิต เพราะว่ามือถือ Galaxy ขายดีมาก ต้องผลิตเพื่อรอรับความต้องการของลูกค้าให้ทัน

DSC03472

Battery แบบ 2,600 mAh แบบมี NFC แนบมาด้วยในตัว

DSC03471

ตรงสีเงินๆนั่นก็คือ ลำโพงครับ มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม

DSC03473

ช่องใส่ Sim แบบ Micro Sim และช่อง Micro SD ที่รองรับสูงถึง 64GB

DSC03466

สรุปสั้นๆเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S4

  • เป็นโทรศัพท์ที่ Feature เยอะมาก มาก มาก มาก มาก… จะมากไปไหน
  • วัสดุเหมือน S3 .. แต่จับสะดวกมือขึ้น หน้าตาดูพรีเมี่ยมมากขึ้น
  • ปุ่ม Home กดง่ายกว่า S3 เยอะมาก
  • ความสามารถ S-Health จะเป็น Killer Feature ในอนาคต มือถือ Galaxy ทุกเครื่องจะคอยตรวจสอบสุขภาพได้อย่างดี
  • กล้อง 13 ล้าน ก็จริงแต่ sensor รับภาพเฉยๆมาก
  • Dual Camera แจ๋วมากครับ แต่ถ้าเครื่องร้อนมากจะใช้ไม่ได้ และ มันก็ร้อนง่ายน่าดูเลยล่ะ
  • ใครเป็นแฟน Galaxy อยู่แล้ว นี่คือการพัฒนาที่ดีขึ้นกว่า S3 มากๆ

สุดท้ายขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทยสำหรับเครื่องรีวิว และ กิจกรรมโคตรมันส์ สยองพองขนครั้งนี้ด้วยนะครับ ฮ่าาา 😀

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

111 comments

Leave a Reply