Windows 7 Blogger Day ไปงานของ Microsoft มาครับ

เมื่อวันเสาร์ที่ 25/09/2009 ที่ผ่านมา ผมกับพี่หลามได้รับเชิญจากทาง Microsoft ให้ไปร่วมงาน Microsoft Windows 7 Blogger Day. ซึ่งเป็นงานที่ทาง Microsoft จัดขึ้นมาเพื่อรวบรวม Blogger ทางด้าน Technology เข้ามารู้จักกับ Windows 7 ก่อนที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 31 ตุลาคม 2009 อย่างเป็นทางการขึ้น ซึ่งจากงานวันนั้นผมก็อยากจะมาเล่าถึงเรื่องเด็ดๆวันนั้นให้ฟังกันครับ

ในงานวันนั้นทาง Microsoft ได้เปิดบ้านที่ตึก All Season ชั้น 38 เลี้ยงรับรองบรรดา Blogger กว่า 60 คน เล่าถึงความสามารถและความเป็นมาของ Windows 7 ซึ่งผมก็ดีใจมากที่ Windows 7 เป็น Windows ที่มีคนไทยในทีมพัฒนาด้านโปรแกรมกว่า 30 คนและคนไทยที่พัฒนาในส่วนของ เมนูภาษาไทยอีก 13 คน.. (แจ๋วมาก)

ถ้าอยากอ่านรายละเอียด Blog ว่าวันนั้นทำอะไรกันบ้าง สามารถไปอ่านได้ที่ Blog ของ Blogger ท่านอื่นๆเลยครับ เพราะว่าเขียนเอาไว้เยอะและละเอียดมากแล้ว

รวมมิตร Blog งาน Windows 7 Blogger Day จาก Blognone.com

Blog ของผมในวันนี้ผมจะเขียนถึงการใช้งาน Windows 7 มาตั้งแต่ช่วงเปิด RC 7100 แรกๆ จนตอนนี้แอบใช้ RTM รุ่น 7600 อยู่นะครับ

ความประทับใจใน Windows 7

• Superbar : ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของ Taskbar ที่ผมอยากได้มานาน คือ แถบโปรแกรมที่ สามารถ เป็นได้ทั้ง ตัวเรียกโปรแกรมและตัวแสดงว่าโปรแกรมกำลังทำงานอยู่ในที่เดียวกันที่ลงตัวที่สุด อยากจะแปะ(pin) โปรแกรมตัวไหนลงบน Superbar ก็ลากมาวางหรือเลือก Pin ได้เลย ทำให้เราบริหารโปรแกรมที่เราใช้งานบ่อยๆได้อย่างง่ายดายมาก
• ช่อง Search ที่ Start Button : ผมเคยใช้ Mac OSX  Leopard มาก่อนและก็คิดว่า spotlight แจ๋วมากๆ ตอนใช้ Windows XP ก็พยายามหาตัวช่วยมาใช้งานเช่น Google Desktop หรือ Coppernic Desktop Search แต่มันก็เป็นโปรแกรมเสริมที่ดูจะค่อนข้างเปลืองหน่อยความจำ การที่มีความสามารถนี้มาและหาได้ค่อนข้างรวดเร็วเป็นอะไรที่ผมถูกใจสุดๆ ตอนนี้เวลาจะเรียกโปรแกรม ไม่ต้องใช้ Mouse ไล่คลิกแล้ว แต่พิมพ์ชื่อโปรแกรมใน Search Bar แล้วให้ Windows ค้นหาเอาเลย (เร็วกว่าเอา Mouse คลิกอีก)
• ระบบค้นหา Driver : ใน Windows 7 ผมรู้สึกสบายใจในการหาเอาอุปกรณ์มาเสียบยิ่งกว่า สมัย Windows XP นะครับ.. เพราะถึงแม้ XP จะมี Driver แต่มันก็ต้องลงโปรแกรม.. เข้าใจมันแต่ก็แอบรำคาญ ใน Windows 7 มีระบบค้นหา Driver รวมไปถึงฐานข้อมูล Driver ที่เยอะมาก เสียบอุปกรณ์ USB , Printer , Scanner และอื่นๆ ค่อนข้างมั่นใจว่า เดี๋ยวก็ใช้ได้เลย รวมไปถึง USB Drive ที่เสียบแล้วไม่ค่อยมีปัญหาด้วย
• ปุ่ม Shortcut เก่งๆที่เพิ่มขึ้นมา ได้แก่ ปุ่ม Windows + (+,-) เอาไว้ Zoom in และ Zoom Out หน้าจอ ถึงแม้จะไม่ละเอียดเหมือนของ Mac OSX แต่ผมก็ชอบมาก เวลานำเสนอทำให้ เน้นในจุดที่ต้องการนำเสนอได้ และปุ่ม Windows + P ที่เอาไว้ควบคุมการปล่อยภาพออก Projector หรือ จอสอง ทำให้ไม่ต้องปวดหัวมองหาว่า ตูจะต้องกดปุ่ม Fn + อะไร เพื่อที่จะปล่อยภาพออกจอมาฟระ
• โปรแกรมเสริมความสามารถอื่นๆเช่น Windows DVD Maker เอาไว้โยนรูปและวีดีโอของเราไปสร้างเป็นแผ่น DVD ได้เลย , Windows Fax and Scan ที่คอยจัดการพวกเอกสารกระดาษให้กลายเป็นไฟล์ดิจิตอล พวกโปรแกรมอะไรพวกเนี่ยใน Windows XP ผมไม่เคยสนใจเลย หาโปรแกรมเถื่อนมา Crack ตลอด แต่หลังจากที่ผมทำ freeware.in.th ผมกลับพบว่า ใน Windows 7 มีโปรแกรมดีๆพวกนี้รองรับเอาไว้อยู่แล้วโดยที่เราไม่ต้องไปหา Crack Software มาใช้กันเลยครับ
• การปรับแต่ง พลังงาน , หน้าจอ และ Hardware จุดอื่นๆที่ปรับแต่งได้ละเอียดมากขึ้น อย่างเช่นการปรับพลังงาน สามารถปรับแต่งได้ละเอียดถึงขนาด CPU , Harddisk หรือแม้แต่จะบอกเครื่องว่าจะจ่ายไฟให้กับ Port USB หรือเปล่า ถ้าคุณเสียบไฟไว้ เผื่อว่าคุณอยากจะชาร์จมือถือผ่าน Notebook แต่ไม่อยากจะเปิดเครื่อง
• เปลี่ยนรูปแบบการเชื่อมต่อ Wireless ให้กดง่ายและไม่ชวนงงเหมือนตอน Vista มี Wizard มาให้สำหรับคนที่งงๆ ไม่รู้จะ Setup ยังไง

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะครับ เอ๊ะ ไม่สิ เรียกว่าจุดที่ผมไม่ถูกใจอยู่คนเดียวมากกว่า

• การดูรายละเอียด Network ยังดูยากอยู่ ผมคิดถึงอารมณ์แค่ Double Click ที่ตัว icon ของ Network Card แล้วดูรายละเอียดของ IP Address ได้เลย ตอนนี้บน Windows 7 ต้องคลิกประมาณ 3-4 ทีกว่าจะถึง ตอนนี้ต้องอาศัย Desktop Gadget ดูแทนไปก่อน
• ปรับแต่ง IP Address ยาก กว่าจะเข้าไปปรับแต่งได้ คลิกเยอะมาก สำหรับ Network Admin ที่ต้องแก้ไข IP Address บ่อยๆเวลาจะทดสอบ Network ถือเป็นปัญหาที่กินเวลาและเซลล์สมองมาก

ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาเกี่ยวกับ Network ที่ผมทำงานบ่อยๆ แต่ที่เหลืออื่นๆก็ถือว่า OK ครับ ในงาน Microsoft Windows 7 Blogger Day พี่หลามแกได้กล่าวไว้ว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ ที่คนไทยจะอยากซื้อ โปรแกรมถูกลิขสิทธิ์ใช้ ดังนั้นจึงอยากให้ Microsoft ประเทศไทย คิดถึงบรรดาผู้ใช้เหล่านั้น หาโปรโมชั่นสวยๆมาด้วยจะได้มีใช้กันเยอะๆครับ

สำหรับผม ผมเองก็คือซื้อ Licensed MS Windows 7 Pro แบบ OEM กับ Notebook เครื่องหน้านี่แหละครับ

• Facebook
• Twitter
• Line