Home -> Review -> รีวิว Boston Acountis SoundWare XS 2.1 ตำนานที่กลับมาอีกครั้ง

รีวิว Boston Acountis SoundWare XS 2.1 ตำนานที่กลับมาอีกครั้ง

เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตอนที่คอมพิวเตอร์ยังมีตวามเร็ว CPU ไม่ถึง 1Ghz .. น่าจะประมาณปี 1998 เวลาใครซื้อคอมพิวเตอร์แล้วอยากได้ลำโพง “เทพ” ที่ราคาไม่แพง แต่ให้เสียงเกินราคา ก็ต้องถามหา Boston Acoustic BA635

ถ้านึกหน้าไม่ออก ลองดูได้ครับ ใครที่ยังมีอยู่คงน่าจะเห็นด้วยกับผมแน่ๆ ว่ามันเป็นลำโพงคอมพิวเตอร์ที่ให้เสียงดีเกินตัว ซึ่งขนาดผ่านมานานขนาดนี้ ชื่อเสียงในความเป็นตำนานของ BA635 ยังไม่เสื่อมคลายครับ ยังมีคนควานหามือสองกันให้ควั่ก ราคาขายต่อยังอยู่ พันปลายๆ ซึ่งสมัยก่อนนั้น ราคามือหนึ่งสูงถึง 3,000 กว่าบาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเปรี้ยวมากสำหรับลำโพงคอมพิวเตอร์ แต่หลังจาก BA635 ทาง Boston Acoustics เองก็เงียบหายไปจากประเทศไทยไปเลย ชนิดที่ว่า สาปสูญ

จนกระทั่งในงาน Thailand International Mobile Show ที่ผ่านมา ผมเห็นบูทของ Boston Acoustics มาเปิดในงานพร้อมกับนำเองลำโพงรุ่นใหม่มาเปิดตัว ซึ่งชื่อของมันคือ Boston Acoustic SoundWare XS 2.1 ครับ

จากวันนั้นผ่านมาหลายเดือน อยู่ดีๆ ผมได้รับการติดต่อให้เอาเจ้าลำโพงตัวนี้มารีวิว คิดหรอครับว่าผมจะปฏิเสธ อยากรู้จริงๆว่าการกลับมาของตำนานจะเป็นยังไงบ้าง

Boston Acoustics SoundWare XS 2.1 เป็นลำโพงแบบ Stereo มี Sub Woofer ด้วยหนึ่งตัว ขนาดไม่ใหญ่มาก คือ ตั้งเป็นลำโพงคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานเพื่อฟังเพลงก็ได้ หรือ เอาไปประกบกับเครื่องเสียงให้กลายเป็นชุดดูหนังก็ไม่มีปัญหาครับ

มาดู Spec แบบละเอียดกันหน่อยดีกว่าครับ

  • ตัวลำโพงที่เป็น Sattlelites ประกอบไปด้วยดอกลำโพง Tweeter แบบ ครึ่งนิ้ว ประกบกับ ตัวดอกลำโพงแบบ Mid-Bass อีก 2 นิ้วครึ่งรวมกันในชิ้นเดียวครับ
  • ตัว Sub Woofer มีขนาด 8 นิ้ว ให้กำลังขับ 100 Watts
  • มีระบบ BassTrac ที่สามารถสร้างเสียงเบสได้ต่ำและแน่นโดยที่เสียงไม่ผิดเพี้ยน
  • มีระบบ Magnetic Shielding เอาไว้สร้างสนามแม่เหล็กเพื่อป้องกันเสียงรบกวน ซึ่งเป็นสิทธิบัตรของทาง Boston Acoustics เองเลย ไม่เชื่อกดดูที่นี่
  • ตัวลำโพง Sattlelites มีคัว Mount ที่สามารถนำไปยึดกับกำแพง หรือมุมเพดานได้ ทำให้ง่ายต่อการติดตั้ง
  • ช่อง Input มี 3 แบบได้แก่ AUX1 เป็นหัวแบบ RCA , ช่อง AUX 2 เป็นหัวแบบ Mini Phone Jack 3.5 มม. และ ช่อง Input ที่ 3 คือ Optical
  • รองรับ Bluetooth แบบ A2DP สามารถต่อผ่าน iPhone , Android หรือเครื่อง PC เพื่อรับสัญญาณทาง Bluetooth ก็ได้
  • แถมสาย Optical มาให้ด้วย 1 เส้นความยาวประมาณ 1.2 เมตร
  • มี 2 สีให้เลือก คือ ขาว และ ดำ

เอาล่ะ อ่าน Spec ไปก็เท่านั้น ลำโพง มันต้อง “ฟัง” สิครับ ถึงจะรู้คุณสมบัติที่แท้จริงๆ .. ซึ่งผมเองก็ไม่ได้หาซื้อพวกแผ่นดีๆมาทดสอบเครื่องเสียงนานมากแล้ว ก็ขอเอาแผ่นเก่าๆ สมัยยังเล่นเครื่องเสียงเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนที่ยังวัยเยาว์มาทำการทดสอบให้ละกันนะครับ เพราะเรียกได้ว่า คุ้นเสียงที่สุด แล้วก็เนื่องจากเป็นการทดสอบระยะสั้นๆ ก็เลยไม่ได้จัดวางอะไรเทพมาก ก็เอาไปต่อกับชุด Home Theater PC ผ่านสาย Optical ธรรมดา ส่วนระยะวางก็ประมาณ 2 เมตรจากหน้าเครื่องเสียง ซึ่งผมจำลองสภาพดูหนังในคอนโดทั่วๆไปนะครับ

แผ่นแรกที่ผมนำมาทดสอบกับ Boston Acoustics SoundWare XS 2.1 ก็คือ Kitaro : Kojiki A Story of Concert เมื่อปี 1997 นะครับ เพลงที่เลือกคือ Matsuri

เสน่ห์ของ Boston Acoustics ที่ผมจำได้คือเสียงเบสที่แน่น ไม่บวม มีพลัง ก็เลยใช้เพลง Matsuri มาทดสอบ ช่วงเริ่มต้นของเพลงจะเป็นการรัวกลองญี่ปุ่นเปิด ซึ่งเป็นการรัวอย่างหนักหน่วงแล้วค่อยๆเฟดลงเบา ตัวลำโพงทำได้ดีครับ ให้เสียงได้ละเอียด ช่วงกลางๆจะเป็นการบรรเลง Sync ที่จำลองเป็นเสียงขลุ่ยญี่ปุ่นก็ให้เสียงหวาน ไม่บาดมาก และ ช่วงท้ายของเพลงที่เป็นการรัวกลองญี่ปุ่นทีเดียว 3 คน เป็นการเค้นพลังสุดๆ ..

ต้องบอกเลยว่า ลำโพงตัวนี้พึ่งได้มาใหม่ อาจจะยังไม่ได้ Burn มาอย่างเท่าที่ควร แต่ถึงขนาดนั้น ผมก็รู้สึกได้เลยว่าตัว Boston Acoustics SoundWare XS 2.1 ยังทำให้ผมประทับใจได้มากเลยทีเดียว

เสร็จจากแผ่นแรกแล้วติดใจ เลยเปิดแผ่นสองต่อ เพราะอยากทดสอบพลังเบสที่แน่นอย่างนี้ต่อก็เลย ไปหยิบเอา Bluray Michael Jackson This is it .. มาเปิด เพราะอยากได้ยินเสียงย่ำเท้าใน They don’t care about us ที่ให้พลังแบบหนักแน่น กระแทกเข้าหน้าแบบแรงๆ

ระหว่างที่ฟัง ก็เรียกได้ว่า ยังไม่ผิดหวังครับ เสียงย่ำเท้าบนเวทีให้รายละเอียดได้ดีมาก ยิ่งฟังด้วย Bluray ยิ่งให้เสียงที่ละเอียดเข้าไปใหญ่ เพลงก็มันส์ .. ดูไปก็คิดถึง Michael Jackson โอ๊ยยย ชอบโว้ย ได้มารีวิวแล้วไม่อยากจะคืนจริงๆพับผ่า..

เสร็จจากแผ่น This is it .. ผมอยากจะทดสอบการตอบสนองของเสียงทุกย่านบ้าง ก็เลยเลือกแผ่นทดสอบชื่อดัง Yanni Live at Acropolis เมื่อปี 1993 ที่บรรเลงโดย Royal Philharmonic Orchestra เพลงที่เลือกคือ Acroyali / Standing in Motion ซึ่งเป็น Medley 2 เพลงรวด จุดเด่นของเพลงนี้ คือ การบรรเลงของเครื่องสายและเครื่องเป่าจำนวนมาก บวกกับการหวดกลองแบบโคตรสะใจของ Charlie Adams เรียกได้ว่าครบทุกอารมณ์ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=m1KAO3TdpB0

โอ้ยย ฟังแล้วหยุดไม่ได้ ก็เลยขอต่อ Track ต่อไปเลย เพื่อทดสอบเสียงร้องครับ กับเพลง ARIA ครับ เพลงนี้ใช้นักร้องโอเปร่า 2 คนมาร้องคู่กัน Darlene Koldenhoven กับ Lynn Davis

เพลงนี้ก็จะเป็นการแหกปากเสียงโคตรสูง ของ 2 นักร้องชื่อดังครับ Boston Acoustics ก็ยังถือว่า ขับเสียงร้องนี้ไหวนะ ไม่ทำให้รู้สึกแตกพร่า หรือขนลุกแต่อย่างใด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ย้ายจากการทดสอบแบบเพลงฉับไว ไปสู่เพลงนุ่มๆกันบ้างดีกว่า

ย้ายจาก DVD มาฟัง CD กันบ้าง แผ่นเพลงแบบนุ่มๆที่ผมเลือกมาทดสอบคือ Winter of Love ของ Chemistry นักร้อง R&B แบบดูโอ้ ที่ดังในญี่ปุ่นมากๆครับ ซึ่งอัลบั้มนี้ เป็นการเอาเพลงตัวเองมา Remix ใหม่ให้เป็นเวอร์ชั่นที่นุ่มนวลขึ้นและให้อารมณ์หิมะตกมากขึ้น

http://www.youtube.com/watch?v=nUoWFlzYoNM

เพลงที่ใช้ทดสอบคือ Aishi Sugite ซึ่งเป็น Track ที่ 2 .. ความรู้สึกก็คือ ฟังแล้วน้ำตาไหลเลย เพลงมันก็ซึ้งอยู่แล้ว ฟังกับลำโพงดีๆยิ่งซึ้งเข้าไปอีก เสียงจาก Boston Acoustics ให้ความนุ่มนวลมากๆ ผมเผลอเร่งเสียงซะดังลั่นห้อง จนคนข้างห้องมาเคาะประตูด่าเลยทีเดียว

เอาล่ะทดสอบกับเพลงเยอะแล้ว ขอทดสอบกับหนังบ้างดีกว่า ผมเลยเลือกแผ่นทดสอบเสียงระเบิดโครมครามที่ Classic ที่สุด นั่นคือ U-571 ครับ ฉากที่ทดสอบคือ ฉากที่ หย่อนระเบิดน้ำลึกในเรือ U-571 ซึ่งฉากนี้จะโดดเด่นตรงที่จากเสียงเบาๆของการหย่อนลูกระเบิดที่ค่อยๆกดดันอารมณ์ แล้วพอโดนเข้าข้าวของในเรือ ก็ระเบิดกระเด็นเด้งไปเด้งมา ความรู้สึกหลังจากที่ฟังทดสอบก็คือ ยังไม่ถึงใจครับ เพราะฉากนี้เป็นฉากที่เอาไว้ทดสอบความเป็น Surround ของระบบเครื่องเสียง ซึ่ง ถ้าได้ตัว SoundWare 5.1 มาทดสอบจะสะใจกว่านี้ แต่ตัวนี้ก็พอใช้ได้ครับ

สรุปโดยรวมคือ ผมว่าเป็นการกลับมาของตำนานที่น่าพอใจ เป็นลำโพงที่ตอบสนองได้ดี ทั้งหนัง และ เพลง .. ชนิดพาเพื่อนมานั่งฟังที่บ้านอวดได้ไม่อายใครครับ ..

ข้อดีคือ เป็นลำโพงที่ติดตั้งง่าย วางก็ง่าย ไม่เรื่องมาก มีช่อง Input สำหรับใช้งานทั่วไปได้เยอะ และแถมสาย Optical มาให้ด้วย ส่วนข้อเสียก็คือ  อยากจะให้ตัวมันเองมี AirPlay ไว้เชื่อมกับพวก Apple TV , iPad พวกนี้ด้วย เพราะจะได้ใช้งานได้หลากหลายกว่านี้ เพราะที่มีให้คือ Bluetooth ซึ่งจะเรียกว่าดี แต่ก็ยังดีไม่สุดน่ะแหละครับ

สำหรับคนที่สนใจ ติดต่อตัวแทนจำหน่าน บริษัท โซนิควิชั่น จำกัด (02-300-6700) ได้เลยนะครับ ค่าตัวอยู่ที่ 18,900 บาท

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

19 comments

  1. มันหาซื้อได้ที่ไหนครับ อาจารย์

  2. กฤช043

    ผมกำลังหาข้อมูลลำโพงมาแทนเจ้า BA635 อยู่พอดี ต้องลองไปทดลองฟังบ้างแล้ว ในใจมี BOSE Companion® 5 อยู่ครับ อ.คิดว่าเทียบกับ Boston Acoustics SoundWare XS 2.1 ในแนวเพลงแบบที่อ.รีวิว ตัวไหนน่าหลงไหลกว่ากันครับ ขอบคุณครับ

Leave a Reply