Home -> Review -> รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!!

TL:DR ไม่อยากอ่านยาว อ่านสรุปแค่ตรงนี้ก็พอ

  • Auto-Empty Dock คือแท่นชาร์จ พร้อมถังเก็บฝุ่นที่จะดูดฝุ่นจาก Dustbin ออกจากเครื่องให้คุณโดยอัตโนมัติ
  • ใช้สำหรับ Roborock S7 เท่านั้น แท่นสีขาวใช้กับหุ่นสีขาว แท่นสีดำใช้กับหุ่นสีดำ และรุ่นอื่นๆในอนาคตของ Roborock
  • สามารถเก็บฝุ่นได้ยาวนานถึง 6 อาทิตย์
  • มี Filter กรองฝุ่นระดับ H13 HEPA ได้สูงสุด 0.3 ไมครอนถึง 99%
  • ถ้าไม่อยากใช้ถังเก็บฝุ่น ก็สามารถเอา ถุงเก็บฝุ่นขนาดมาตรฐานมาใช้ได้เลย พอถุงเต็ม ก็ทิ้งทั้งถุง ไม่ต้องกลัวฝุ่นกลับมาเปื้อนอีก
  • ราคาเต็ม 21,900 ตอนนี้จัดโปรเหลือ 12,900

บางคนตั้งเวลาทำความสะอาดไว้ แล้วก็ปล่อยมันทำงานลืมไป กลับมาดูอีกที ฝุ่นเต็มถัง หุ่น Roboock ก็กรีดร้องผ่าน Notification บนมือถือว่ามาเอาฝุ่นไปทิ้งหน่อย แต่หลายคนมันก็ลืมจริงๆ ผลก็คือ มันดูดฝุ่นได้ไม่ดี เพราะฝุ่นเก่ามันอัดแน่นเต็มถัง

สำหรับบ้านผมที่มีหมาสามตัว แล้วตั้งเวลาทำความสะอาดทุกวันเนี่ย โดยเฉลี่ยแล้ว ผมจะต้องเอา Dustbin ไปเททิ้งประมาณ 7-10 วัน ต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับ ขนหมาและฝุ่นในบ้านมันปลิวว่อนกันเยอะขนาดไหน

ฝั่งผู้ผลิตเองก็มองว่าตรงนี้เป็นทั้งปัญหา และช่องทางในการสร้างของเล่นแปลกๆมาทำให้เราเสียเงินเพิ่มได้เนี่ยแหละครับ ก็เลยมีพวก Auto-Empty Dock ออกมาขาย เสริมกับพวกหุ่นทำความสะอาดพวกนี้ ซึ่งตอนนี้ก็บอกเลยว่า มีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อครับ ที่มี Auto-Empty Dock ให้ใช้งาน และบางรุ่น ซื้อเพิ่มเป็น Option เสริมทีหลังไม่ได้ด้วยครับ ต้องซื้อ พร้อมหุ่นรุ่นใหม่เท่านั้น เรียกได้ว่าจุก ห้องฉันก็มีแค่นี้ จะให้ซื้อหุ่นรุ่นใหม่มา แล้วหุ่นรุ่นเก่าจะเอาไปไว้ไหนฟระ แถม ถ้าใช้หุ่น 2 รุ่นพร้อมกัน ก็ต้องเอาถังเจ้ารุ่นเก่าไปทิ้งเหมือนเดิมสิ แล้วจะมีประโยชน์อะไร!!

ทางฝั่ง Roborock เองก็ทำการบ้านจากปัญหาของผู้ผลิตยี่ห้ออื่นมาเยอะ ก่อนจะออก Auto-Empty Dock ของตัวเองออกมาครับ โดยที่เจ้า Auto-Empty Dock ของ Roborock สามารถใช้งานกับหุ่นรุ่น Roborock S7 ที่เป็นหุ่นรุ่นล่าสุดได้เลย โดยที่แทบไม่ต้องทำอะไรวุ่นวายเลยครับ

ผมเองก็มีหุ่น Roborock อยู่หลายตัว ตั้งแต่ S1 , S6 และ S7 โดยเฉพาะเจ้า S7 ที่ชอบมาก ใครอยากรู้ว่าเทพยังไง ไปหาอ่าน Blog ตอนนี้ได้เลยครับ

ตอนนี้ตัวที่ผมใช้หลักๆในบ้านก็คือ S6 สีดำ ใช้ในห้องนอน และ S7 สีขาว ใช้ที่ชั้น 1 ครับ ทั้งสองตัวก็ทำหน้าที่ปกติดีมานาน ไม่มีมีปัญหาอะไร ยกเว้นเรื่องความถี่ในการเอาฝุ่นไปทิ้งนี่แหละ

ไม่ต้องพูดนาน แกะกล่องเลยดีกว่า ชิ้นส่วนในกล่อง มีไม่เยอะครับ ประกอบง่าย ผู้หญิงก็ประกอบเองได้นะครับ ไขน็อตก็ไม่ต้องใช้แรงเยอะเลย ชิ้นแรกจะเป็นฐานสำหรับให้เจ้า Roborock S7 วิ่งเข้าไปชาร์จกับแท่นครับ

ถัดมาก็คือ ถังเก็บฝุ่น ซึ่งข้างในเป็นระบบมอเตอร์ไซโคลน 15 แกน ที่เค้าบอกว่า แรงดูดมหาศาลไว้ดึงเอาฝุ่นใน Dustbin เข้ามาในถังเก็บ ตอนแรกผมก็คิดว่า มันจะไหวเร้อ เพราะว่า ขนหมา กับฝุ่นของบ้านเรา เป็นฝุ่นแบบชื้นครับ ตอนผมใช้ S7 กับ Dustbin เฉยๆเนี่ย ตอนเอาถังไปเทเนี่ย นอกจากจะเทเฉยๆแล้ว นานๆครั้ง ผมต้องเอา Dustbin ไปล้างเลย เพราะว่า ฝุ่นบ้านเรามันเหนียว แต่สำหรับเจ้า Auto-Empty Dock เนี่ย เดี๋ยวรอดูวีดีโอครับ โอ้โห เทพจริง

อย่าลืมแกะฟิล์มออกก่อนใช้งานนะครับ เพราะข้างในเป็นตัว Laser ที่เอาไว้ให้หุ่น Roborock S7 มองหาแท่นเจอ แล้ววิ่งกลับมาชาร์จได้

ตัวถังเก็บฝุ่นที่ออกแบบมาดีมากครับ คือ ด้านบนเป็นมือจับทำให้ดึงถังไปทิ้งได้ง่ายๆ ตัวถังสามารถเก็บฝุ่นได้นานถึง 6 อาทิตย์ แถมการเอาฝุ่นในถังไปเทก็ง่ายกว่า ตอนไปเท Dustbin เยอะมาก คือตอน Dustbin เนี่ย เราต้องเปิดฝา เคาะๆๆๆ ฝุ่นก็ปลิว ทั้งๆที่ดูดออกมาแล้ว ใช่ไหมครับ บางครั้งก็ต้องเอานิ้วรูดเอาฝุ่นออกมาให้หมดอีกต่างหาก อันนี้ ผมเปิดฝาผั๊ว เทโครม ทีเดียวออกหมดเลย ง่ายกว่าเดิมมาก

Filter ที่ใช้กับเครื่องกรองของตัว Auto-Empty Dock เป็นมาตรฐาน H13 HEPA ครับ สามารถกรองฝุ่นได้ละเอียดขนาด 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.99% ซึ่งได้รับการรับรองผลจาก TÜV Rheinland (บริษัทฯรับรองการทดสอบระดับสากลที่ก่อตั้งมาแล้วถึง 150 ปี มีพนักงานกว่า 26,000 คนทำวิจัยแล้วก็ทดสอบผลิตภัณฑ์มากมายครับ)

Dustbin รุ่นใหม่ ที่จะต้องเอาไปเปลี่ยนใน Roborock S7 ครับ เพราะว่าถังเก่ามันเป็นถังที่เป็นระบบปิด ฝุ่นที่ดูดมาก็กองอยู่ในถังเอาออกไปไม่ได้ ถ้าเราไม่เปิดฝาเท แต่ถังรุ่นใหม่ที่ให้มากับเครื่อง จะมีช่องสำหรับให้ Auto-Empty Dock เข้าไปดูดเอาฝุ่นออกมาได้ครับ

ช่วงนี้สายตาเริ่มยาวแล้ว คู่มือพี่ท่านก็ตัวเล็กเหลือเกินต้องถอดแว่นอ่านแล้วเนี่ย!!

เอาล่ะ มาประกอบกันไปทีละส่วนเลยครับ ส่วนแรกที่เราต้องทำก็คือ เอา Dustbin ตัวใหม่ไปเปลี่ยนกับของเก่าที่อยู่ใน Roborock S7 ซึ่งถ้าเรายกถังเก่าออกมา เราจะเห็นช่องที่เขียนว่า Air inlet ให้เราแกะแผ่นตรงนี้ออกแล้วก็เอา Dustbin ถังใหม่ใส่เข้าไปครับ แค่นี้ก็เสร็จแล้วสำหรับฝั่ง Roborock S7

ส่วนการประกอบ ถังเก็บฝุ่นเข้ากับแท่นก็ไม่ยากครับ จับตีลังกา แล้วก็ประกบ ซึ่งใต้แท่นชาร์จมันจะมีไขควงให้เราอยู่แล้ว ไขแปบเดียวเสร็จ

จากนั้นก็เสียบปลั๊กด้านข้างเครื่องครับ จบข่าว 3 ขั้นตอนง่ายๆ แค่นี้ ผมชอบที่หลังเครื่องมีกลไกสำหรับม้วนเก็บสายแบบง่ายๆ แบบนี้มากเลยครับ เพราะเรามักจะเจอปัญหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้งานสายยาวเกินไปตลอด ซึ่ง การออกแบบให้วนสายเก็บได้แบบนี้ ถือว่าเป็นไอเดียโคตรดี

เมื่อประกอบเสร็จแล้วก็เริ่มใช้งานครับ ซึ่งผมเองก็ใช้งานมาต่อเนื่องประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว สำหรับคนที่จะหาซื้อเจ้า Auto-Empty Dock มาใช้งานเพิ่มเติม ก็ต้องเตรียมพื้นที่ให้เค้าหน่อยนะครับ เพราะว่า จากเดิมที่ใช้แท่นชาร์จอันไม่ใหญ่มาก แต่ตอนนี้ มันจะต้องใช้พื้นที่ ทั้งด้านบนและด้านข้างขึ้นมาอีกหน่อยนึง

ด้านบน ก็คือ 45cm , ด้านลึกก็ประมาณ 38cm ครับ สำหรับคนที่วางไว้ใต้โต๊ะ หรือใต้ตู้อะไรพวกนี้ครับ

หลังจากใช้งานมันประมาณ 3 อาทิตย์ ผลที่ได้คือประทับใจมาก มันลดภาระการวุ่นวายกับหุ่นทำความสะอาดไปได้ 1 ตัว แล้วระบบดูดฝุ่นจากถัง Dustbin เนี่ย ตอนแรกผมก็นึกว่า เต็มที่ก็ดูดไปได้นิดๆหน่อยล่ะมั้ง พวกฝุ่นแบบ ขนหมา หรือเส้นผม น่าจะไม่ได้ดูดตามไปด้วย เพราะฝุ่นพวกนี้มันจะมีความเหนียวอยู่เหมือนกัน

แต่อยากให้ดูภาพวีดีโอตอนสุดท้ายครับ คือ หลังจากที่ไปดูดฝุ่นมาเต็มพื้นที่ใช้เวลาประมาณ 25 นาที สำหรับชั้น 1 ของบ้านผม

มันงัดเอาฝุ่นไปหมด Dustbin เลย แบบกล่องสะอาดมากๆ ตกใจเลยอ่ะครับ

นี่ก็พึ่งเอาถังไปเททิ้ง มา 1 ครั้งถ้วน ซึ่งจากการที่ใช้มา 3 อาทิตย์ ถังก็ยังไม่เต็มเลยครับ ยังเหลือพื้นที่ดูดฝุ่นอีกเยอะมาก การเอาไปทิ้ง ก็ไม่ยากเย็นอะไรครับ หยิบถังเก็บฝุ่น ไปที่ถังขยะ กดสลักสีแดง แล้วฝาก็จะเปิดออก ฝุ่นก็จะเทลงไป ไม่ยากเย็นอะไร พอเสร็จก็ปิดฝา กลับมายัดใส่เครื่องเหมือนเดิม

ซึ่งถ้าเทียบกับการเอา Dustbin ของเก่าไปเททิ้ง ซึ่งผมจะรำคาญหนักมากทุกครั้ง เพราะต้องไปเคาะๆ ไล่ฝุ่น เอานิ้วแคะเศษเส้นผมกับขนหมาออกจาก Dustbin มันไม่ไหวจริงจริ๊ง

ซึ่งเจ้า Auto-Empty Dock เนี่ย ผมแนะนำให้ซื้อไว้เลยครับ เพราะว่าทาง Roborock เค้าออกแบบให้ใช้งานแบบระยะยาว หมายถึง ถ้ามีหุ่นรุ่นใหม่ในอนาคตออกมา มันก็จะสามารถใช้งานกับ Auto-Empty Dock ได้เลย เพราะเค้าวางแผนระยะยาวไว้แล้วครับ

แนะนำเลยครับ!!

Check Also

รีวิว ROBOROCK S7 หุ่นยนต์ดูดพร้อมถูที่ไม่ต้องเรื่องเยอะ

การพูดถึงหุ่นยนต์ทำความสะอาดในยุคปี 2021 เนี่ย ผมว่าไม่ต้องไปเล่าเหตุผลแล้วครับ ว่าต้องมีไปทำไม เพราะบรรดาหุ่นยนต์ทำความสะอาดมากมายหลายยี่ห้อบนโลก ได้ทำการพิสูจน์ตัวเอง ต่อเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทั้งหลายแล้วว่า พวกมันสามารถช่วยทำความสะอาดบ้าน และลดภาระของเจ้าของบ้านได้จริงๆ Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

Leave a Reply