จริงๆแล้วน่าจะเป็นโปรแกรมแรกๆที่ผมควรจะนำเสนอ เพราะโปรแกรมประเภท Antivirus เนี่ย เป็นโปรแกรมอันดับสอง หรือ สาม ที่คนไทยๆอย่างเราผิดลิขสิทธิ์กันเลยทีเดียว (ที่หนึ่งไม่ต้องสืบก็รู้ว่าเป็น Windows XP) วันนี้ก็เลยจะขอนำเสนอ Antivirus ที่นอกจากดีแล้ว ยัง “ฟรี” อีกด้วย เพื่อที่ว่าเราจะได้ไม่ต้องละเมิดลิขสิทธิ์การใช้งาน แต่ก็ยังปลอดภัยในโลก Internet อยู่ได้ครับ

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา วงการ Security ได้เปลี่ยนจากการไล่ล่าและสังหารไวรัส เป็น จับเป้ามาที่สปายแวร์ เพราะมันก่อให้เกิดความเสียหายมากซะยิ่งกว่ามาก ไอ้ความเสียหายเนี่ย ไม่ได้พูดถึงติดไวรัสแล้วเครื่องพังนะครับ แต่เป็นการติดสปายแวร์แล้ว โดนหลอกล่อด้วย Phishing บ้าง .. โดนสปายแวร์ขโมยรหัสผ่านอีเมล์บ้าง ถ้าซวยหน่อย ก็อาจจะโดนบัตรเครดิตหรือบัญชี Paypal ขึ้นอยู่กับกว่า โดนกรรมที่เคยก่อไว้มันย้อนเล่นงานขนาดไหน

เคยมีปัญหาไม๊ครับ เช่น เพื่อนเราในไทยใช้งาน MSN .. เราก็เลยต้องออน MSN ทำงานกับเพื่อนต่างประเทศ พวกนั้นเค้าใช้ Yahoo Messenger กัน เราก็เลยต้องออน Yahoo Messenger ไปด้วย จากนั้น พอหันมานิยม Google ก็เลยต้องออน Gtalk เริ่มหัดเล่น Social Networking ก็ต้องเข้าเว็บ Facebook กับ Twitter มันทุกวัน แถมต้องเช็ค Mail ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Hotmail,Yahoo,Gmail อีก

จริงๆแล้วช่วงนี้เป็นช่วงพิเศษในรายการแบไต๋ ไฮเทค แนะนำโปรแกรมดีๆ และฟรีๆ ที่เราสามารถนำมาทดแทนโปรแกรมผิดลิขสิทธิ์ทั้งหลายต่างๆ ทั้งในเครื่องและในองค์กรของเราได้ ซึ่งปัญหาของการละเมิดลิขสิทธิ์ในบ้านเรานอกจากเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ ทำให้ต่างประเทศใช้นิสัยเสียเราในการกดดันด้านการค้าแล้ว ยังเป็นปัญหาด้านจิตใจให้กับคนไทยอย่างเราๆอีก เพราะจะทำให้มักง่ายและไม่ค่อยเห็นประโยชน์และคุณค่าของคำว่า ลิขสิทธิ์และค่าความคิด แต่จะให้อยู่ดีๆงดการละเมิดที่เราทำกันมานานนับสิบปีแล้ว วิ่งไปซื้อซอฟท์แวร์ให้ถูกลิขสิทธิ์ทั้งหมดก็ใช่เรื่อง เอาเป็นว่า ค่อยๆเปลี่ยนตัวผิดลิขสิทธิ์ในเครื่องให้กลายมาเป็นตัว ฟรีแวร์ แชร์แวร์ หรือ โดเนทแวร์ แล้วตัวไหนจะใช้เพื่อการสร้างสรรงานแบบขาดไม่ได้จริงๆ ค่อยซื้อก็ได้ครับ

เดี๋ยวน้ไม่ว่าใครๆก็ต้องมีอุปกรณ์ไอทีพกติดตัวกันคนละอย่างสองอย่างบ้างแหละ ไม่ว่าจะเป็น iPhone , iPod หรือ มือถือรุ่นอลังการ์ที่ใส่หน่วยความจำได้เยอะๆเพื่อที่เราจะโหลดหนังหรือเพลงของเราลงไปได้ ทีนี้พอแต่ละคนมีหนังที่อยากจะโยนลงไปในเจ้าอุปกรณ์ต่างๆเหล่านั้น เพื่อพกพาไปรับชมกันนอกสถานที่แล้ว เราจะแปลงหนังหรือเพลงเหล่านั้น ลงเครื่องของเราได้ยังไงล่ะ

เชื่อได้ว่า ถ้าพูดถึงโปรแกรมเขียน CD/DVD เนี่ย ยังไงซะ ตัวเลือกแรกๆในใจของหลายๆคนก็คงไม่พ้น Nero Burning Rom.. ที่มีความสามารถเหลือล้น เขียนแผ่นและไฟล์ได้สารพัดแบบ แต่ถ้าจะบอกว่ามีของฟรี ที่มีความสามารถใกล้ๆเคียงกัน มาให้เลือกใช้จะน่าสนไหมครับ

หายหน้าหายตาไปนานกับ Software ฟรีมีให้โหลด พอดีติดนิสัยปลายปีชอบอู้ครับ แต่พึ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เขียนแนะนำโปรแกรมดีๆมาจะสองอาทิตย์แล้ว ต้องเอาซะหน่อยไม่งั้นเดี๋ยวแฟนรายการหายหมด ไหนๆก็จะข้ามปีกันแล้ว ไม่ว่าประเทศไหนๆก็จะมีธรรมเนียมในการทำความสะอาดบ้านฉลองปีใหม่กันทั้งนั้น มาคราวนี้ผมมาแนะนำโปรแกรมดีๆ ที่จะช่วยทำความสะอาดเครื่องของทุกท่านให้ใหม่สดเสมอกว่าเดิม หลายๆคนคงเคยได้ยินชื่อเจ้าโปรแกรมนี้กันมาบ้างแล้ว เพราะนอกเหนือจากมันเป็นโปรแกรมที่ผมและพี่หลามแนะนำในรายการแบไต๋ ไฮเทคกันบ่อยๆ มันยังเป็น Top Download Freeware ประจำหลายเว็บเลยไม่ว่าจะเป็น download.com หรือ filehippo.com นั่นคือโปรแกรม CCleaner ครับ

ผมเคยมี Notebook เครื่องแรกเมื่อประมาณปี 1999 ทำงานแทบตายเพื่อที่จะซื้อ Notebook เครื่องแรกเป็นขอวตัวเอง ในตอนนั้นคิดเสมอว่า การมี Notebook มาทำงานข้างนอกมันช่างเทพจริงๆ แต่ดันลืมคิดไปอย่างนึงครับ นั่นก็คือ ผมไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ก็เลยไม่ได้เอา Notebook มาเขียนโปรแกรมนอกสถานที่กับเค้า จริงๆแล้วตอนนั้นเรียน Network แถม Notebook มันมีแต่ Modem 56k ยังไม่ Buildin Ethernet มาเลย สรุปก็คือ Notebook เครื่องนั้นมีไว้แบกโชว์ป๋าเฉยๆ (เอาเข้าจริงๆก็คือเอาไว้เล่น Starcraft 1 นอกสถานที่แหละนะครับ) จนตอนนี้เทคโนโลยีเรื่อง Wireless เริ่มเป็นที่นิยมชนิดที่ว่า Notebook เครื่องไหนไม่มี Wireless LAN นี่ถึงขั้นเชยสะบัดและมองเย้ยกันด้วยหางตาเลยทีเดียว

  พอดีผมอยากได้ USB Drive ตัวใหม่ที่มันใหญ่กว่านี้ แต่ตัวเก่าที่เป็น Trandsend ขนาด 1GB ยังอยู่ตรงนั้นไม่หายไปไหน แถมใช้งานได้ปกติสุขอีกต่างหาก ผมก็เลยยกให้ @joyz ซะเลย เพื่อที่จะได้หาเรื่องซื้อตัวใหม่ซะ โดยที่ Requirement ของตัวใหม่จะต้องตอบโจทย์ดังนี้