Home -> Review -> รีวิว Samsung Galaxy S มือถือที่เป็นเรือธงของ Samsung ในตลาด Android

รีวิว Samsung Galaxy S มือถือที่เป็นเรือธงของ Samsung ในตลาด Android

วันนี้ผมได้มีโอกาสรีวิว Samsung Galaxy S มือถือเรือธงจากค่าย Samsung ซึ่งนอกเหนือจากผมแล้วยังมี ปีเตอร์กวงและ นายห้างหนุ่ยช่วยกันรีวิวด้วย อย่าพลาดรีวิวจากพวกเรานะครับ

จริงๆก่อนหน้านี้ทาง Samsung ก็เคยส่ง โทรศัพท์มือถือที่เป็น Android ชื่อ Samsung Spiga มาตีตลาดไทยไปแล้วครั้งนึง เล่นเอาเจ้าตลาดเก่าอย่าง HTC ออกอาการเป๋เล็กน้อย เพราะ Spec ค่อนข้างดีในราคาหมื่นต้นๆ ซึ่งศึกครั้งนั้นทำเอา HTC ต้องหั่นราคา HTC Hero และ HTC Magic ที่เป็นมือถือ Android ตอนนั้นลงไปฮวบๆเลยทีเดียว ผมที่พึ่งซื้อ HTC Hero มาตอนนั้นก็กริ๊ดไปเรียบร้อยครับ

ในงานเปิดตัวเมื่อวันที่ 26 พฤษณาคมที่ผ่านมา ทาง Samsung ก็เปิดตัว Samsung Galaxy S ที่ Suntech City ประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งในงานก็นำเสนอ สิ่งที่ S Life หรือ เจ้า S ที่ต่อท้ายชื่อรุ่นน่ะแหละครับ ซึ่งเจ้า S Life คืออะไรนั้น ดูจากวีดีโอ Presentation ที่ทาง Blognone ไปติดตามถ่ายทำมาได้เลยครับ

ผมเชื่อว่าจุดเด่นของ Galaxy S ที่หลายๆคนได้ยินมาก็คือหน้าจอ Super AMOLED ซึ่งเป็นหน้าจอที่ผมขอบอกว่า โค-ตะ-ระ ชัดดด ครับ..หลังจากที่ได้ทดลองใช้งานดูซักครู่พร้อมกับประกาศแอบอวดอ้างไปใน Twitter ก็มีหลายถามไถ่กันเข้ามามากมายทันที ว่า “เทียบกับหน้าจอ IPS ของ iPad แล้วเป็นยังไง” รวมไปถึง “ถ้าเทียบกับหน้าจอ Retina Display ของ iPhone 4 แล้วจะเป็นยังไง?”

ซึ่งตรงนี้ ผมยังไม่มีโอกาสได้เทียบกับ iPad ทั้งแบบในเชิงเทคนิค รวมไปถึงยังไม่ได้หยิบยืม iPad ของนายห้าง @nuishow มาทดลองเลย ฮ่าๆ ดังนั้น ไว้จะมาบอกทีหลังนะครับ แต่หน้าจอ Super AMOLED ของ Samsung เนี่ย ทาง Samsung เค้าก็บอกในงานแถลงข่าวใหญ่ว่า ชัดและสว่างกว่า AMOLED แบบเดิมถึง 20% , ลดอัตราแสงสะท้อนตอนใช้งานกลางแดดถึง 80% และประหยัดแบทเพิ่มอีก 20% (ไอ้นี่ของสำคัญเลยครับ โทรศัพท์จะเทพแค่ไหนก็ง่อยเมื่อแบทหมด)

เอ้า พูดพล่ามนานแล้ว มาเข้าเรื่องเนื้อๆกันบ้างเลยดีกว่า

ว่ากันที่ Spec ของ Samsung Galaxy S กันก่อนเลยนะครับ

  • ชื่ออย่างเป็นทางการ : Samsung i9000 Galaxy S
  • CPU : S5PC110 ความเร็ว 1Ghz + ชิปการ์ดจอ PowerVR SGX540
  • หน่วยความจำ : Ram 512Mb / SDCARD แบบ Buildin 16GB และใส่ External MicroSD ได้อีก
  • หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 Pixel
  • ระบบควบคุม : ระบบสัมผัสแบบ Multi-Touch Capacitive
  • กล้อง : 5 Megapixel แบบ Autofocus , ถ่ายวีดีโอความละเอียด HD 720p และมีกล้องหน้าไว้สำหรับทำ Video Chat
  • Battery : Lithium Ion ขนาด 1500 mAh
  • ขนาด : ยาว 4.8 นิ้ว , กว้าง 2.5 นิ้ว , หนา 0.4 นิ้ว เกือบจะเป็นมือถือ Smartphone ที่บางที่สุดในโลก ถ้าไม่มี iPhone4
  • อุปกรณ์เสริมอื่นๆ : aGPS , Digital Compass , สั่งการด้วยเสียง , วิทยุ FM(ต้องใช้หูฟัง) , ระบบเสียง 5.1(ต้องใช้หูฟัง)
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 2.1 รุ่นโมหน้าตาพิเศษ

มาดูรอบๆตัวเครื่องกันบ้างนะครับ สำหรับ Galaxy S จะมีการวาง Layout ปุ่มที่ค่อนข้างจะแปลกๆซักหน่อยนั่นก็คือ

ปุ่ม Power อยู่ด้านขวา อันนี้ผมว่ามันกดสะดวกดีนะ

ช่องเชื่อมต่อเป็นแบบ Micro-USB ซึ่งก็ใช้ชาร์จไฟจากช่องนี้แหละ รวมไปถึงหูฟังขนาด 3.5 มม.

ปุ่ม Volume อยู่ด้านซ้าย อันนี้ก็ปกติ

ตรงด้านล่างเครื่อง เรียกจากซ้ายไปขวาจะเป็นปุ่ม Menu , Home และ Back ครับ อันนี้ต้องบอกว่า ด้วยการที่ทำปุ่มเป็นระบบสัมผัสและไม่โชว์ไฟเตือนมาบอกว่ามันเป็นปุ่มอะไร แรกๆจะงงกดผิดกดถูกกันซักหน่อย ใช้แล้วก็ชินไปเอง แต่จะมีเผลอไปโดนบ่อยเหมือนกันเวลาใช้งาน โดยเฉพาะตอนใช้กล่องนี่แหละครับ กดผิดบ่อยมาก เพราะนึกว่าปุ่ม Home มันคือปุ่มกด shutter

Android รุ่นที่ทาง Samsung ติดตั้งมาให้เป็น Android 2.1 ที่ทำการปรับแต่งหน้าตาให้เหมือนกับ iPhone ค่อนข้างมาก เช่น ปุ่ม icon 4 ปุ่มล่างสุดที่เป็นปุ่มใช้บ่อย หรือการแปลง icon ทุกตัวให้มีกรอบเหมือนเป็น icon ใน iPhone รวมไปถึงการเลื่อนหน้าจอไอค่อนในลักษณะแนวนอน ไม่ใช่แนวตั้งเหมือน Android ทั่วไป ตอนผมทดสอบแรกๆผมก็เป๋ๆเหมือนกัน กดไม่ถูกเพราะนึกว่าเหมือน Android ทั่วไปครับ

Application ที่ทาง Samsung เพิ่มมาให้มีหลายตัวด้วยกัน ซึ่งตรงนี้ผมได้ทดสอบดูแล้ว พบว่า เป็น App ที่เรียกได้ว่าใช้งานได้เข้าท่าจริงๆ ไม่เหมือน Crapware ที่แจกกันตามโทรศัพท์มือถือทั่วไป

ตัวแรก Aldiko eBook .. เป็นโปรแกรมอ่าน ebook ซึ่งมีให้ทดลองอ่าน 2 เล่มนั่นคือ Pride and Prejudice และ Sherlock Holmes แน่นอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราสามารถซื้อหนังสือออนไลน์ได้ผ่านระบบของ Aldiko และถ้ามีหนังสือ ebook ที่เป็นมาตรฐาน epub ก็ก๊อปปี้ใส่ SDCard แล้วให้ Program มันทำการ import เข้ามาอ่านได้เลยครับ

ตัวที่ 2 Allshare ทำหน้าที่เป็นเหมือนโทรศัพท์มือถือของเรา เข้าไปใช้บริการ Media Sharing ที่ใช้งานกันอยู่ใน Windows Vista และ Windows 7 ครับ เอาแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ เช่น เรามีคอมพิวเตอร์ที่เป็น Windows 7 อยู่ ทำการเปิดแชร์พวกไฟล์ Multimedia เช่น Video หรือ เพลง ก็สามารถให้เจ้า Galaxy S เข้ามาในเครื่องเราแล้วโหลดเพลงไปฟัง ได้ทันทีครับ สะดวกมาก นอกจากนั้นยังให้ PC เข้ามาเอาเพลงในเครื่องเราไปเปิดก็ได้ด้วย

ตัวที่ 3 คือ Mini Diary ครับ โปรแกรมตัวนี้ช่วยให้เราจดไดอารี่ง่ายๆ ด้วยการถ่ายรูป เขียนๆนิดหน่อย + เอาข้อมูลตารางนัดหมายของเราปนๆเข้าไป ทำให้การเขียนไดอารี่บนมือถือเป็นเรื่องสนุกได้

ตัวที่ 4 คือ Social Hub เป็นเหมือนโปรแกรมช่วยส่งข้อความ Update ครอบจักรวาล กดทีเดียวส่งได้หมดทั้ง Message , Email , Twitter , Facebook … เรียกว่าบอกทีเดียวไปหมดทุกบริการเลยครับ

ตัวที่ 5 คือ ThinkFree Office เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้เรา Sync พวกงานเอกสารในมือถือ เข้ากับระบบออนไลน์ คุณจะได้ไม่มีปัญหาลืมเอกสารไว้ที่เครื่องอื่นอะไรแบบนี้ครับ ตัวนี้ถือว่าเด็ดมากๆ

ตัวที่ 6 ก็คือ Write and Go เป็นโปรแกรมที่เอาไว้เขียน Memo ครับ แต่เขียนเสร็จแล้วส่งเข้า Social Network ด้วยก็ได้ ก็จะเรียกว่าแปลกดีก็ได้ครับ ผมยังนึกวิธีใช้ไม่ออกเหมือนกัน

ตัวที่ 7 คือ Daily Briefing เป็นเหมือนโปรแกรมที่สรุปเรื่องราวประจำวันมาให้เราทราบโดยการเอาข้อมูล สภาพอากาศ , หุ้นที่ติดตามอยู่ , ข่าวจากสำนักข่าว AP และ ตารางนัดหมายประจำวันมาให้เราอ่านได้เลย โดยที่ตัวโปรแกรมนี้ก็มี Widget หน้าแรกให้เราดูสรุปแบบง่ายๆด้วย

นอกเหนือจาก โปรแกรม 7 ตัวเด็ดๆที่ทาง Samsung ให้มา ตัว Galaxy ก็ยังมี Android Market ไว้ให้เข้าไปค้นโปรแกรมเล่นๆเพิ่มเติมอีก ประมาณ 40,000 โปรแกรม และยังมี Samsung Apps ซึ่งเป็นเหมือน Appstore ในการโหลดโปรแกรมของ Samsung เองได้ฟรีๆเพิ่มอีก ก็ตอนนี้มีโปรแกรมอยู่ 5 ตัว แต่ก็ไม่เลวครับ มีเกมอย่าง Asphalt และ Facebook for Samsung ให้ลองโหลดเล่นดูด้วย

สำหรับรีวิวตอนแรก ก็ขอนำเสนอในส่วนของ Hardware + โปรแกรมเสริมที่ทาง Samsung ให้มาก่อนนะครับ ซึ่งตอนหน้าจะเป็นเรื่องของระบบภายในเช่น ระบบกล้องซึ่งผมยอมรับว่า มีความสามารถเหนือชั้นกว่า Android ปกติมาก , ระบบ Keyboard แบบ Swype ที่พิมพ์ได้เร็วที่สุดในโลก , การทดสอบความชัดของหน้าจอ Super AMOLED , ราคาเปิดตัว และรายละเอียดอื่นๆอีกมากมาย

ข้อเสียที่พบเจอ

  • อย่างแรกเรื่องวัสดุฝาหลัง ผมพบว่า วัสดุดูไม่ค่อยแข็งแรงแล้วการแกะฝาหลังก็ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะถ้าแกะแรงไป เดี๋ยวกรอบมันจะหักเอาครับ เวลาจะแกะเปลี่ยน SIM อะไรข้างในทีเล่นเอาเกร็งกันจนเหนื่อยเลย
  • อย่างที่สองก็คือ เรื่องของการแก้ไขคำผิดครับ ถ้าเป็น Android ทั่วไป เวลาเราพิมพ์ผิด 2-3 จุด เราสามารถใช้ Trackball หรือ Trackpad ค่อยๆสไลด์เลื่อนไปแก้ได้ แต่ของ Samsung Galaxy S ไม่มีอุปกรณ์แบบนั้น เวลาพิมพ์ผิดทีก็กดแก้กันหน่อย บางทีก็ต้องลบทั้งประโยคเลยครับ
  • อย่างที่สาม มีอาการหน่วงเล็กน้อยเวลาผมกด Back หรือ Home … ซึ่งอันนี้ลองสอบถามจาก บรรดา Tester รายอื่นที่ได้รับเครื่องไปก็มีบ้างที่รู้สึก ซึ่งผมก็สอบถามไปทางเจ้าหน้าที่ Samsung แล้ว ทางนั้นแจ้งมาว่าเครื่องที่เราได้ทดสอบเป็น เครื่อง Demo ล้วนๆครับ ประสิทธิภาพมันไม่เต็ม 100% ซึ่งตรงนี้ผมก็หวังว่าจะมีการแก้ไขเรื่องความหนืดตรงนี้ด้วยครับ

อย่าลืมติดตามบทความตอนหน้านะครับ

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

8 comments

  1. ผมลองเล่นที่งาน samsung experience day แล้วครับ มีความเห็นคล้ายๆพี่ ศุภเดช เลยฝาหลังเป็นรอยนิ้วมือง่ายมากก

  2. ล้างมือให้สะอาดก่อนใช้ โดยเฉพาะคราบคาว

  3. เรื่องอาการหน่วงเวลาผมกด Back หรือ Home พนักงานก็ตอบตามสเต็บเลย
    แต่พอเครื่องจริงออกมาก็หน่วงเหมือนเดิม

  4. Chocobo_choco

    ข้อมูลผิดนะครับ
    ราคา 22xxx ครับ แพงกว่า HTC Desire เสียอีก
    ซีพียูเท่ากันแต่RAM ก็น้อยกว่า
    ที่่บอกว่า internal storage 16GB
    ของ HTC Desire ก็แถม micro SD ให้ 16GB เหมือนกันครับ
    แถม 2GB ให้ด้วยอีกตัว ช็อตคัตคีย์ต่างๆก็ดีกว่า
    user interface มันต่างกัน

    กาแล็คซี่วัสดุพลาสติกป๋องแป๋งมากก
    จับแล้วกลัวจะหัก ไม่เหมือนพวกเทฟลอน
    อวดนักว่าบางว่า 1 เซน ก็แค่ 9.9 มม.
    ก็เครื่องพี่เค้าเล่นใหญ่ขนาดนั้น ไม่บางก็เครียดละ

    ยอมรับในเรื่องหน้าจอครับ ว่ามัน contrast จัดจริงๆ
    เคยคิดถึงสุขภาพตาของผู้บริโภคมั้ยว่ามันเสียสายตา
    คนเล่นทำเอาใส่แว่นกันเป็นแถบ

    สรุป ผมอคติกับ samsung ครับ ขอบคุณครับ

  5. เอ่อ อคติก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอคกรับ แต่ที่บอกว่า
    CPU เท่ากัน แต่แรมของ Desire ก็ 512Mb เท่ากับของ Galaxy S แหละครับ
    ส่วนที่แถม Micro SD 16GB ผมก็ว่าดีครับ แต่ของ Galaxy S น่ะ เค้ามี Internal Memory ให้ในเครื่อง 16Gb แล้วก็มีช่องใส่ Memory เพิ่มได้อีก สูงสุดที่ 32Gb อันนี้ผมว่าก็ OK นะ

    ส่วนเรื่อง UI ผมว่าแล้วแต่ชอบครับ Touch Wiz 3.0 มันก็หน่วงๆผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน วัสดุก็ยังกระป๋องอันนี้ผมก็ Comment ไปแล้ว

    ส่วนที่บอกว่าหน้าจอ Contrast มากแล้วเสียสายตานี่ ไม่มีข้อโต้แย้งที่มันดูมีข้อมูลสนับสนุนมากกว่านี้แล้วหรอครับ โอ้ว..

  6. อยากให้รีวิว Nokia n8 บ้าง8iy[

  7. อยากทราบข้อ เปรียบเทรียบระหว่าง Samsuung Galaxy S กับ Nokia n8

Leave a Reply