Home -> Review -> รีวิว Acer Swift 7 .. Ultrabook ที่บางที่สุดในโลก แล้วมันดีหรือเปล่า?

รีวิว Acer Swift 7 .. Ultrabook ที่บางที่สุดในโลก แล้วมันดีหรือเปล่า?

ถ้าใครตาม Facebook ของผมอยู่จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ผมได้มีโอกาสย้ายค่ายฝากเครื่อง PC + Notebook ไปใช้ยี่ห้อ Acer ครับ .. ใช่แล้วครับ ยี่ห้อที่ใครหลายๆคนอาจจะยี้ หรือ เบือนหน้านี้ เพราะปัญหาจากยุคก่อนที่มันทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกไม่กล้าลอง แต่วันนี้ผมลองแล้วครับ แล้วผมติดใจด้วย ฮ่า

อีท่าไหน ถึงมาใช้ Acer ได้?

เรื่องของเรื่องคือผมกำลังมองหา Gaming Notebook ตัวใหม่ที่จะมาแทน MSI GE62 เครื่องเก่าของผม โดยที่ตัวเลือกในใจตอนนั้นก็มีหลายยี่ห้อด้วยกัน แต่วันดีคืนดี ไปเห็น Acer Predator เข้าในร้าน ก็รู้สึกว่า เฮ้ย! Acer มันแปลกไปนะ หลังจากนั้นผมก็ลองไปกดดู Spec อ่านรีวิว แล้วก็จับเครื่องจริง เทียบกับหลายๆเครื่องมา รวมไปถึงไปจับเครื่องรุ่นอื่นๆของ Acer มาด้วย เช่น Acer S13 หรือ Acer V-Nitro

กลายเป็นผมสับสนในหัวตัวเอง คือ ความเชื่อเก่าในหัวมันจะแอบหลอนจากกระทู้หรือจากคนรอบกายว่า เฮ้ยจะเอา Acer ดีหรอ ซึ่งมันตีกับภาพที่ผมได้เห็น แล้วก็ได้จับเครื่องมา คือแบบ สับสนในตัวเอง ไม่รู้จะซื้อหรือไม่ซื้อดี

สุดท้ายก็ซื้อมาครับ Acer Predator 17 ที่มาพร้อมจอภาพ Full HD ขนาด 17 นิ้ว และ อื้นๆอีกมากมาย ซึ่งนอกจากความแรงสมคำโฆษณาเอาไว้แล้วเนี่ย ยังมีอีกหลายๆส่วนที่ผมชอบและติดใจ จนทำให้ผมกลายเป็นติ่ง Acer ไปเฉยเลยแบบงงๆ นี่แหละ

แต่นี่ไม่ได้จะมารีวิว Acer Predator นะครับ โหย เล่าซะขนาดนี้ เดี๋ยวรออ่านรีวิว Acer Predator อีกตอนละกันครับ ตอนนี้จะเล่าถึง Acer Swift 7 .. Notebook ที่บางที่สุดในโลกครับ

 

เอาล่ะก็อย่างที่ผมเกริ่นไปนี่แหละ มันมีหลายเหตุผลที่จะบิ้วผมที่เป็น ติ่ง Apple + ติ่ง Thinkpad เมื่อหลายปีก่อน ให้อยู่ดีๆ มาเลือก Acer ได้ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็คงจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ทาง Acer พยายามใส่เข้ามาใน Notebook แต่ละรุ่นของตัวเอง ซึ่งเจ้า Acer Swift7 นี่แหละ ก็อัดแน่นไปด้วยสิ่งเหล่านั้นอยู่

ตอนแกะกล่องออกมา ผมนี่ถึงกับร้องอุทาน เพราะสีดำตัดทองของ Acer Swift 7 นี่มันสวยมาก มันไม่ใช่ทองแบบอาเสี่ยครับ มันดูเรียบหรูกว่านั้นเยอะเลยทีเดียว

สิ่งที่ให้มาในกล่องมีไม่เยอะครับ อย่างแรกก็คือ หัวแปลง USB-C to USB-A ที่เป็นมาตรฐาน USB 3.0 … เห็นหัวแปลงแบบนี้น่าจะเดากันได้ใช่ไหมครับ ถึง Port ที่เครื่อง Acer Swift7 ให้มา แต่เก็บไว้ก่อนยังไม่เล่า รอดูของในกล่องให้ครบก่อนละกันครับ

ถัดมาก็เป็น Power Adapter แบบ USB-C ครับ ขนาดเบามากๆ สายที่ให้มายาวประมาณ 2 เมตรนิดๆ มีแถบแคว๊กๆ ไว้มัดสายมาให้

แล้วก็ตัวเครื่องครับ จบข่าว ในกล่องก็มีแค่นี้แหละ มาเปิดเครื่องดูหน้าตารอบๆกันหน่อยดีกว่า

Acer Swift7 มีหน้าจอขนาด 13.3  นิ้วที่กระจกหน้าจอเป็น Corning Gorilla Glass ที่ใช้กับหน้าจอมือถือแบบไฮโซ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของหน้าจอ ป้องกันการตกแล้วหน้าจอแหก ตัวจอเป็น IPS ที่มีความละเอียด Full HD (ไม่สัมผัส ซึ่งก็ดีแล้วผมชอบจอไม่สัมผัสมากกว่า)  ตัวเครื่องเป็น Ultrabook ขนาดพื้นฐานไม่มีอะไรแผลงๆกว่าเครื่องชาวบ้านล่ะนะ

ตัว Keyboard เป็น Chiclet Keyboard ขนาด 6 แถว ระยะห่างของปุ่มกว้างกว่าพวก Chiclet ทั่วไปมากๆ คือประมาณ 2-3 มม ได้ ทำให้ลดปัญหาเวลาพิมพ์แล้วนิ้วไปเกี่ยวปุ่มโดนปุ่มอื่นแทน ความลึกของ Keyboard ตอนพิมพ์อยู่ในระยะพื้นฐานที่ประมาณ 1.2 มม ใช้น้ำหนักการกดไม่เยอะมาก ดังนั้นสำหรับคนที่เป็นสายโหดชอบพิมพ์แล้วกระแทกนิ้ว ปั่กๆๆๆ แบบพวก Mechanical Keyboard (แบบผม) พอมาใช้เครื่องนี้ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ คือ เวลาพิมพ์ต้องค่อยๆนุ่ม ไหลไปกับจังหวะ อย่าไปใส่แรงตามความมันส์มากนัก

จุดเด่นอีกเรื่องของ Acer Swift 7 ก็คือ Trackpad ครับ เป็น Trackpad บนฝั่ง PC ที่ผมว่าใหญ่ที่สุดแล้ว วางมือลงไปเพื่อใช้งาน Multitouch แบบ 2 นิ้ว หรือ 3 นิ้ว สบายๆ ไม่มีอาการนิ้วเบียดแน่นอนล่ะครับ

เอาเทียบให้ดูกับ Trackpad ของ New MacBook Pro ครับ จะเห็นว่าของ Acer Swift7 กว้างกว่า แต่ Macbook Pro สูงกว่า ส่วนเรื่องความแม่นยำ ผมยกให้ Trackpad ของ Acer แม่นยำประมาณ 80-85% ถ้าเทียบกับ Trackpad ของ Macbook Pro นะครับ

หน้าจอก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ผมชอบใน Acer Swift 7 ครับ ตัวหน้าจอเป็น IPS แบบ ActIve Matrix LCD ที่มาพร้อมกับ Acer Color Intelligence ที่จะทำหน้าที่ปรับค่าแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ และจอสว่างมากๆ มากแบบถ้าในห้องทำงานทั่วไป เปิดความสว่างสูงสุด มีแสบตาอ่ะครับ ผมต้องปรับเป็นความสว่างระดับ 70% ถึงจะสบายตาพอดี อ้อ อันนี้ใช้กล้อง iPhone 7 ถ่ายเก็บมา คงแสดงผลได้ไม่ค่อยดีเท่าเห็นด้วยตาเปล่า แนะนำว่าไปดูของเครื่องจริงจะเห็นชัดกว่าครับ

ตัวเครื่องบางขนาดนี้ แน่ล่ะ มี Port อะไรไม่เยอะเท่าไหร่หรอกครับ โดยที่ Port เชื่อมต่อทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง ซึ่งจะมีแค่ 3 รูเท่านั้นครับ นั่นก็คือ Port หูฟัง 3.5 มม กับ Port USB-C แบบ 3.0 นั่นเองครับ. (น้ำตาจะไหล ขอ USB-A มาให้ซักรูนึงก็ไม่ได้ ฮือ)

ลำโพงอยู่ใต้เครื่องครับ อยู่บริเวณด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ซึ่งทาง Acer ก็มีแปะตรา Dolby AudioTM Premium และยัดเทคโนโลยีเรื่องเสียงอย่าง Acer TrueHarmonyTM จากที่ผมทดสอบดู โอ้แม่เจ้า เครื่องบางขนาดนี้ทุกที จะคาดหวังอะไรไม่ได้ แต่นี่ไม่ใช่เลยครับ เสียงดังมากๆ และ เสียงค่อนข้างดีเลยด้วย

ไฟบอกสถานะ มีแต่ตรงด้านขอบหน้าเครื่องครับ มีแค่ 2 ดวงเท่านั้นแหละ ดวงซ้ายจะขึ้นเป็นสีส้ม บอกว่าชาร์จไฟเครื่องอยู่หรือเปล่า ดวงขวาเป็นสีฟ้า บอกว่า เปิดเครื่องอยู่หรือเปล่า เท่านั้นแหละครับ

ส่วนเรื่องของความบางเนี่ย เจ้า Acer Swift 7 เนี่ย มีส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องเพียงแค่ 9.98 มม ครับ ซึ่งบางกว่าอันดับสองของโลกอย่าง HP Spectre อยู่ 0.02 เท่านั้นเอง จะว่าไปก็สงสาร HP Spectre นะครับ ประกาศตัวเองว่าเป็น Notebook ที่บางที่สุดในโลกได้อยู่แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ภาพนี้ผมทดสอบกับ New Macbook pro ครับ จะเห็นว่าส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องบางเท่ากับท่อนล่างของ New Macbook pro เท่านั้นเอง

เอาล่ะ มาดู Internal Spec กันบ้าง Acer Swift 7 ทำงานด้วย CPU Core i5 ตระกูล Baby Lake ที่ตัวรุ่นประหยัดพลังงานตัวล่าสุด ความเร็ว 1.2 Ghz กับแรมอีก 8GB และ SSD ของ Kingston ขนาด 256GB นะครับ เป็น Spec กลางๆ ที่เรียกว่ากำลังพอดีๆ ละกัน ไม่บ้าพลังมากไป แล้วก็ไม่ได้อืดมากเกินไปนัก

ทดสอบ AS-SSD กับความเร็วในการเขียนอ่านออกมาก็ค่อนข้างน่าพอใจนะครับ อ่านได้เร็วมาก แต่เขียนเรียกว่ากลางๆ ละกันครับ ไม่ได้เร็วหวือหวา แต่ก็ไม่ได้ช้าเต่าคลานอะไร

อีกเรื่องที่ผมว่ามันเจ๋งมาก นั่นก็คือ Acer ใส่การ์ด WIFI ที่รองรับมาตรฐาน WIFI AC Wave 2 มาให้ครับ ซึ่งไอ้ Wave 2 เนี่ย มันรองรับ ความสามารถที่ชื่อ MU-MIMO ครับ ถ้าอยากรู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน ลองกดวีดีโอข้างล่างดูครับ

สรุปก็คือ MU-MIMO ทำให้เพิ่มความสามารถในการรองรับ Client พร้อมๆกันในจุดที่ Client หนาแน่นได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า ทำให้การใช้งาน WIFI Network ลื่นไหลกว่าเดิมมาก ซึ่งผมถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญสำหรับการเลือกซื้อ Notebook ในยุคสมัยนี้เลยนะครับ นั่นก็คือ การพิจารณาว่ามันมีการ์ด WIFI ที่รองรับมาตรฐาน WIFI AC Wave 2 หรือเปล่านั่นเอง

เรื่องที่ผมชอบใน Acer Swift 7

จากที่ทดสอบใช้มาประมาณเดือนนิดๆ ใช้ทั้งเขียน Blog ทำงานเน็ตเวิร์ค และ  นั่งเล่น Heartstone บ้างเป็นบางเวลา ก็ต้องบอกว่า ผมเจอเรื่องที่ชอบ และ ไม่ชอบในตัวมันระดับนึงแหละครับ ไปกันทีละเรื่องเลยสำหรับเรื่องที่ชอบนะครับ

  • หน้าจอที่สีโคตรสวย … เนื่องด้วยผมใช้งาน Macbook Pro Retina มาก่อน จึงทำให้กลายเป็นมนุษย์สายตาเสีย จะใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือ ก็ต้องให้จอมันดีมากไว้ก่อน ส่วนหนึ่งก็เพราะสายตาเริ่มยาวแล้วครับ ฮ่าๆ ที่ผมขาย MSI ย้ายมาเป็น Acer ก็เพราะจอภาพนี่แหละ จอภาพของ Acer Swift 7 ดีมาก ถึงจะไม่ได้คมระดับ Retina Display ของ Macbook Pro แต่ให้สีที่สวย ความละเอียดที่พอดี ใช้งานได้สบายตา มองได้นานไม่ล้าเวลาทำงานนานๆครับ
  • ลำโพงที่โคตรดัง … อยากจะบอกเลยว่า ลำโพง Notebook เนี่ยเป็นลำโพงที่ผมไม่เคยคาดหวังเพราะโดนมาเยอะแล้ว ลำโพงที่ว่าแน่ๆ แต่เสียงห่วยแตก และ “เบา” ทุกรายแถมยิ่งเป็น Ultrabook ที่ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้ใส่ลำโพงตัวใหญ่ๆแล้ว ยิ่งอยากจะบอกเลยว่าคาดหวังไม่ได้แน่นอน แต่ทว่ากับ Acer Swift7 นี่มันหนังคนละม้วนเลยครับ เป็นลำโพงที่เสียงดังโคตรๆ แถมเสียงค่อนข้างดีเลยล่ะ เรียกว่าทำได้ดีมากเกินความคาดหมาย
  • การ์ด WIFI AC Wave 2 … ก็อย่างที่อธิบายไปแล้วครับ ทำงานด้าน Network ก็อยากจะได้การ์ด WIFI ดีๆ และ Notebook ที่ขายกันอยู่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยให้การ์ด WIFI ดีกันซักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่ WIFI AC Wave 1 เท่านั้นเอง
  • Battery … ทาง Acer เคลมว่า สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง แต่ผมทดสอบดูแล้ว ก็ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ เพราะผมเปิดหน้าจอความสว่างเยอะกว่าปกติ แถมยังใช้งาน Network ตลอดเวลา
  • Keyboard  … พิมพ์มันส์ ถ้าคุณปรับจังหวะและน้ำหนัการกดให้มันไม่ต้องบ้าคลั่งนะครับ ปล่อยมันไหลไป
  • น้ำหนักเครื่องที่เบาโคตร … คือ Notebook ขนาด 13 นิ้ว ที่หนักเท่า Macbook Air 11 นิ้ว อ่ะครับ แค่ 1.1 กิโลเท่านั้นเอง เบาโคตร มันมี Moment ที่ว่า ผมหยิบกระเป๋า Notebook มาแล้วหลอนว่า เฮ้ย ทำไมเบาจัง Notebook ยังอยู่ป่าววะ หลายครั้งมากๆครับ

เรื่องที่ไม่ถูกใจ

มีเรื่องถูกใจก็ต้องมีไม่ถูกใจบ้างแหละครับ มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันก็อาจจะไม่ใช่ข้อเสียนะครับ แค่ไม่ถูกใจเฉยๆ

เปิดฝาเครื่องยาก! … คือเครื่องมันก็บางใช่ไหมครับ ดังนั้นการจะเปิดฝาเครื่องก็ต้องใช้สองมือ แต่ผมนิ้วใหญ่ แถมร่องที่ทาง Acer บากเอาไว้เพื่อเปิดหน้าจอ ก็น้อยมากๆ เวลาเปิดจอ ผมแทบไม่เคยเปิดในทีแรกสำเร็จซักที ต้องมีขยับนิ้ว 2-3 รอบเสมอ

ร้อนเวลาวางตัก … ลืมบอกไปว่า Acer Swift 7 นั้น ไม่มีพัดลมระบายอากาศครับ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มันบางที่สุดในโลกได้ การระบายความร้อนของมันใช้ส่งความร้อนออกมาทางบอดี้โลหะ นี่แหละครับ ซึ่งส่วนที่ร้อนที่สุด ก็คือตรงขอบเครื่อง ที่ผมชี้นิ้วไปนี่แหละ ถ้าทำงานบนโต๊ะไม่มีปัญหาเลย แต่วางตักเมื่อไหร่ เป็นแสบขาแสบไข่ทุกที

Keyboard ไม่มีไฟ LED ครับ … คือตอนแรกผมก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่ครับ เพราะตัวเองพิมพ์สัมผัสได้อยู่แล้ว แต่พอโดนกับตัวเข้า ก็เออแฮะ ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาเหมือนกัน คือเวลาขนไปทำงานในที่มืดๆ เนี่ย พอ Keyboard ไม่มีไฟ มันหาจุดตั้งต้นนิ้วไม่เจอครับ ผลก็คือ พิมพ์ผิดๆ ถูกๆอยู่แปบนึงเวลาอยู่ในที่มืดๆ นี่แหละ

การที่ไม่มี USB-A ช่างโหดร้าย .. ไม่ต้องเล่ามากนะครับ ดูภาพก็เข้าใจ ฮ่าๆ

สรุป…

ก็อย่างที่บอก มันเป็นข้อเสียที่ไม่เหมือนข้อเสีย ควรจะเรียกว่า ขัดใจ มากกว่า โดยรวมแล้ว กับค่าตัว 39,900 บาท แต่ได้ Notebook ที่บางที่สุดในโลก มาพร้อม License Windows 10 Home Edition และ WIFI AC Wave 2 กับหน้าจอ 13.3 นิ้ว Full HD ที่โคตรแหล่มเนี่ย ราคาโคตรคุ้มเลยครับผม เหมาะมากกับคนที่มีเครื่องหลักในการทำงานอยู่แล้ว แต่อยากได้เครื่องที่สองที่น้ำหนักเบา(โคตรๆ) ไว้สำหรับทำงานนอกสถานที่ครับ งานพื้นฐานทั่วไป อย่างงานเอกสาร เปิดเว็บ เขียนโปรแกรมนิดๆหน่อยๆ หรือสำหรับงาน Network Admin แบบผมที่ใช้การ Remote Control พวกเครื่อง Server นี่เรียกว่า สบายๆเลยล่ะครับ

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

Leave a Reply