Home -> Feature -> รีวิว Epson Printer รุ่น WF-2528 เครื่องเดียวเอาอยู่ทั้ง Office

รีวิว Epson Printer รุ่น WF-2528 เครื่องเดียวเอาอยู่ทั้ง Office

ครั้งก่อนได้มีโอกาสรีวิว Printer Epson รุ่น L-355 … ก็มีคนถามรายละเอียดมาหลายคนมากว่าจะมีรุ่นอื่นๆมาอีกหรือเปล่า จนทาง Epson ใจดี ส่ง Printer มาให้ผมรีวิวอีกรุ่นครับ โดยที่ตัวนี้เป็นรุ่นกลาง ทำงานแบบ All in One สารพัดประโยชน์ รองรับการทำงานพื้นฐานทั้ง Print / Scan / Copy / Fax แถมยังมีรองรับ Network Printing ด้วย ลองอ่านรีวิวดูครับ

Printer Epson WF 2528 .. ชื่อรุ่น WF นี่มาจากคำว่า Work Force นะครับ แปลตรงๆตัวก็แปลว่า แรงงานเลยล่ะ หมายถึงเจ้า Printer ตัวนี้สามารถทำงานแบบขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ เปรียบเสมือนแรงงานบ้าพลังกล้ามโตในออฟฟิศของคุณ ซึ่งในรุ่น Workforce นี้จะมีรุ่นย่อยอยู่ 2 ตัวนะครับ นั่นก็คือ

  • Epson WF-2528 
  • Epson WF-2538

IMG_1317

โดยที่ทั้งคู่เหมือนกันเด๊ะเลย แต่จะต่างกันแค่ว่า รุ่น WF-2528 รองรับ Network ผ่านระบบ Ethernet (สาย LAN) , ส่วน WF-2538 รองรับ Network  ผ่านระบบ Wireless ครับ ชอบใจแบบไหนก็เลือกได้ตามสะดวก โดยส่วนตัวผมว่ารุ่นที่ใช้สายจะเสถียรกว่า เพราะว่า ปัจจุบันเนี่ยพวกคลื่น Wireless LAN ในออฟฟิศเดี๋ยวนี้มันกวนกันเยอะมากๆ ทำให้การใช้งาน Network Printer แบบนี้อาจจะเกิดอาการ LAG หรือ สะดุด ขึ้นได้ ดังนั้นพวกใช้สายก็จะเสถียรกว่ามากๆ แต่ในทางกลับกัน การใช้แบบ Wireless LAN ก็สะดวกสุดๆ วางตรงไหนก็ได้ หรืออยากจะย้ายไปไหนก็ได้ตามสะดวกขอแค่ให้มันอยู่ในระยะของสัญญาณก็พอ อันนี้ก็เรียกได้ว่า ชอบแบบไหนก็เลือกเอาตามใจได้เลยนะครับ

IMG_1303

มาดูความสามารถพื้นฐานของเจ้า Epson WF-2528 กันบ้างนะครับ เนื่องจากมันเป็น All in One Printer หมายถึงรองรับการทำงาน 4 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือ

  • Print : รองรับการพิมพ์ ทั้งสี และ ขาวดำ 
  • Copy : เอาเอกสารอะไรมา ให้มันก็อปปี้เป็นอีกชุดก็ได้ อันนี้ทำงานเหมือนเครื่องถ่ายเอกสารเลย แถมยังถ่ายเอกสารสีได้อีกต่างหาก
  • Scan : อยากจะ Scan เอกสารอะไรก็ให้มันจัดการได้ แถมมีช่อง ADF (Auto document Feed ) เอาไว้ดูดเอกสารอัตโนมัติเวลาที่เราต้องการสแกนหลายๆแผ่นพร้อมกันได้ด้วย
  • Fax : มีระบบ Fax ในตัว เหมาะมากสำหรับสำนักงานที่ตอนนี้ยังใช้งานระบบ Fax อยู่

มาดูกันแบบละเอียดๆกันไปทีละเรื่องนะครับ

ความสามารถด้านการพิมพ์ของ Epson WF-2528 เป็นแบบ Inkjet ที่พิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ หัวพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ทั้งไปและกลับ พร้อมกันเพื่อเพิ่มคุณภาพในการพิมพ์

ช่องใส่กระดาษสามารถใส่กระดาษ A4 แบบปกติเพื่อรอพิมพ์ได้ 100 แผ่น ถ้าเป็นกระดาษแบบ Photo ก็จะได้ 20 แผ่นครับ  แล้วสำหรับช่องขาออก สามารถรองรับกระดาษได้ทั้งหมด 30 แผ่นด้วยกันครับ ส่วนขนาดกระดาษที่รองรับก็สามารถใช้ได้ตั้งแต่ A4 ไปจนถึง C6 เลยล่ะครับ

ส่วนความเร็วในการพิมพ์แบบปกติ เช่นพิมพ์งานเอกสารบนกระดาษ A4 แบบ Draft ขาว-ดำ จะอยู่ที่ 34 แผ่นต่อนาที   ส่วนพิมพ์สีจะอยู่ที่ 18 แผ่นต่อนาทีครับ และถ้าเกิดอยากได้คุณภาพแบบไฮโซระดับ Laser Printer ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เอกสารออกมาคมกริ๊ป แต่ความเร็วจะเหลือ 9 แผ่นต่อนาทีครับ

หมึกที่ใช้จะเป็นรุ่น T190 เป็นหมึกแบบประหยัดที่สามารถพิมพ์ ขาว-ดำ ได้ทั้งหมด 280 แผ่น แถมยังมีรุ่น T190XL ที่เป็นตลับพิเศษ ที่พิมพ์ต่อเนื่องได้ถึง 500 แผ่นอีกด้วย ส่วนหมึกสี สามารถพิมพ์ได้ 380 แผ่นครับ

IMG_1316

ส่วนการพิมพ์รูปถ่ายบนกระดาษ Photo ขนาด 10 x 15 cm จะใช้เวลา 27 วินาทีต่อ 1 รูป ซึ่งความละเอียดสูงสุดในการพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ถึง 5,760 x 1,440 dpi เลยล่ะครับ ละเอียดมาก

IMG_1314

ความสามารถด้าน Copy ก็ไม่มีอะไรมากครับ เหมือนเครื่องถ่ายเอกสารเป๊ะ แต่ในเครื่อง All in One รุ่นก่อนๆ จะใช้การสแกนผ่านทาง Flatbed Scanne ซึ่งมันเสียเวลาและน่ารำคาญมากถ้าหากมีเอกสารเยอะ เพราะต้องทำทีละแผ่น แต่ในเครื่อง Epson WF-2528 จะมีระบบ ADF (Auto Doument Feed) มาให้ ทำให้ช่วยลดขั้นตอนการ Copy เอกสารลงไปได้เยอะ เพราะช่อง ADF สามารถใส่เอกสารได้สูงสุด 30 แผ่น สามารถถ่ายเอกสารได้ทั้งสีและขาวดำ คุณภาพของภาพ คมชัดมาก

สามารถก็อปปี้เอกสารได้สูงสุด 99 แผ่น และสามารถย่อขยายได้ 25% – 400% เลยทีเดียว

IMG_1304

ส่วนความสามารถด้าน Scanner ก็เหมือนกับ ความสามารถ Copy ครับ คือ สามารถใช้ได้ทั้ง ตัว Flatbet และตัว ADF ส่วนความละเอียดในการ Scan สามารถทำได้สูงสุด 1,200 x 2,400 dpi .. ส่วนความเร็วในการสแกนก็จะเปลี่ยนไปตามความละเอียดนะครับ นั่นคือ ยิ่งละเอียดมาก ก็ยิ่งสแกนช้า

IMG_1306

และสุดท้ายก็คือ Fax ครับ อันนี้ไม่มีอะไรมาก เราสามารถเก็บข้อมูล Quick Call ได้สูงสุด 60 เบอร์ แล้วก็มีหน่วยความจำในการรับ Fax เก็บไว้ได้ 180 แผ่นด้วยกัน

และเนื่องมาจากมันเป็น Network Printer ใช่ไหมครับ ดังนั้นเมื่อเราจับมันเชื่อมต่อกับ Network ซึ่งแล้วแต่รุ่นว่ามันเป็นรุ่นอะไรนะครับ ไม่เหมือนกัน ตัวนึงใช้สาย LAN อีกตัวใช้ Wireless ครับ พอเราเชื่อมเข้าสู่ Network เดียวกันแล้ว ใครๆใน Network ก็สามารถสั่งพิมพ์มาที่เครื่องนี้ได้เลยครับ และที่เจ๋งก็คือ ทาง Epson ยังได้ออก App ที่ชื่อว่า Epson iPhone Mobile App  เป็น App บน iOS และ Android ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสั่งพิมพ์จากมือถือของเราครับ ทำให้ความรวดเร็วในการทำงานเพิ่มมากขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้คนเราเองก็โยกย้ายงานเอกสารมาอยู่บนมือถือหรือ Tablet แทนกันเยอะมากขึ้นแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลา ไปเปิดคอมพิวเตอร์ มานั่งสั่งพิมพ์อีกรอบ

 mzl.cshvrprx.320x480-75

โฉมหน้า Epson iPrint … App บนมือถือที่สั่งพิมพ์ได้จาก Network เลย

IMG_1315

สั่งพิมพ์รูปจากมือถือไปที่ Printer ได้ทันที

สรุปข้อดี – ข้อเสีย

  • รองรับการพิมพ์ที่หลากหลาย อยากพิมพ์เร็วก็เร่งได้ อยากพิมพ์สวยก็ทำได้ แต่รอหน่อย
  • Epson Connect เทพมาก ทำให้การทำงานคล่องตัวขึ้นมากๆ
  • ระบบ ADF ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการที่ต้องมานั่งสลับกระดาษไปๆมาๆ ประหยัดเวลามาก
  • Setting ส่วนใหญ่สามารถตั้งค่าจากจอ LCD ที่อยู่บนตัวเครื่องได้เลย

ข้อสังเกต

  • ระบบ ADF ทำงานยังไม่เร็วมาก กว่าจะเสร็จแต่ละแผ่นอาจจะต้องรอกันหน่อย
  • น่าจะมีระบบ Fax to Email ด้วย ไหนๆก็รองรับ Network ครบวงจรซะขนาดนี้

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

2 comments

Leave a Reply