Dtac กำลังจะเปิดตัวโครงข่าย 3G อัจฉริยะในชื่อว่า Trinet เพื่อตอบรับกระแสด้าน 3G ในบ้านเรา ประกอบกับทาง Dtac เองก็พึ่งจะประมูลสิทธิ์การใช้งานคลื่นความถี่ 3G 2100 Mhz มาเมื่อต้นปี ก็เลยอยากจะใช้เทคโนโลยีที่ได้มาเพื่อประโยชน์สูงสุดครับ

Trinet คืออะไร?

Dtac เป็นหนึ่งใน Operator ที่มีความถี่ให้บริการถึง 3 คลื่นความถี่ครับ นั่นก็คือ

• 1,800 Mhz ที่ให้บริการ 2G ในกาคุยโทรศัทพ์และการใช้งาน edge/gprs มาโดยตลอด
• 850 Mhz ที่ให้บริการ Dtac 3G ตรงนี้มี Bandwidth 10Mhz สามารถรองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 42Mbps
• 2,100 Mhz ที่พึ่งประมูลได้มา ก็ได้มาอีก 15Mhz เช่นเดียวกัน มี Bandwidth แบบเหลือใช้ครับ

ดังนั้น Dtac ก็เลยใช้คลื่นความถี่ทั้ง 3 ในการให้บริการพร้อมกัน โดยที่ ถ้าหากในพื้นที่นั้นมีความถี่ 2,100 Mhz ให้บริการ โทรศัพท์มือถือของเราก็จะเกาะกับเสา 2,100 Mhz โดยอัตโนมัติ และถ้าเกิด เสา 2,100Mhz มีคนใช้เยอะ หรือเต็ม ก็จะถอยลงมาเกาะเสา 850 Mhz ที่ให้บริการ Dtac 3G เดิม และถ้าเกิดในพื้นที่นั้นไม่มี 3G ให้บริการ ก็จะเกาะเสา 2G ที่ความถี่ 1,800 Mhz ให้โดยอัตโนมัติครับ

ในเชิง Networking ถือเป็นการทำ Load Balance ให้กับทั้งโครงข่ายและผู้ใช้เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นนั่นเองแหละครับ

ทีนี้ เมื่อมีความถี่ 3G ใหม่แล้ว ทาง Dtac ก็มี Concept สำหรับความถี่ 3G ใหม่นี้ว่าเป็น Internet for all .. หมายถึงจะต้องมีอินเทอร์เน็ตให้ทุกคนใช้ได้ ถึงแม้ว่าจะคนที่งบประมาณไม่เยอะก็ต้องใช้ได้ ดังนั้น Dtac ก็เลยเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 3G ของตัวเองในราคาประหยัดโคตรเมื่อเทียบกับ Spec ครับ โดยที่เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันนั่นก็คือ

• Cheetah : เป็น Android ราคา 4,590 บาท แต่ Spec มาทะลุราคามาก
• Joey : เป็น Android ราคา 2,590 บาท ที่ทำ Spec เหนือราคาอีกเช่นกัน
• Mousy : เป็น Feature Phone ราคา 1,290 บาท ที่โคตรคุ้มอีกเช่นเดียวกัน

ซึ่ง Dtac Trinet Phone ทั้ง 3 รุ่น ก็จะรองรับ Trinet ของ Dtac ด้วยครับ

โดยที่ผมได้รับเครื่อง Cheetah มาทดสอบครับ มาดูกันเลยดีกว่าว่าที่ผมประกาศไว้ว่า มันคุ้มราคาที่สุด มันเป็นยังไง

แกะกล่อง Dtac Trinet Phone : Cheetah

กล่อง Dtac Trinet Phone รุ่น Cheetah ขนาดไม่ใหญ่มาก สีฟ้า-ชมพู มาแบบ Dtac Style เลยครับ

ที่เจ๋งมากคือ Promotion ที่แนบมากับ Dtac Trinet Phone ครับ มีเยอะมาก อย่างแรกเลยก็คือ ประกันนาน 15 เดือน โอววว

รอบกล่องจะมี Security Seal ไว้ 2 จุด เพื่อบอกให้รู้ว่าเครื่องนี้ยังไม่เคยแกะกล่องมาก่อนเลยนะ

เปิดกล่องมาสิ่งที่พบก็คือ คู่มือและใบรับประกันครับ โดยที่คู่มือเป็น ภาษาไทยและอังกฤษด้วย ดังนั้นใครมือใหม่ไม่ต้องห่วง อ่านตามคู่มือใช้งานไปได้เลยครับ

ตัวเครื่อง Dtac Trinet Phone นอนรอในเครื่อง ซึ่งรุ่น Cheetah จะมี 2 สีคือ ขาวกับดำ ผมได้รับสีดำมาทดสอบ หน้าเครื่องจะมีสติ๊กเกอร์ใสบอก Spec เครื่องแบบเข้าใจง่ายเอาไว้ครับ หน้าจอตัวนี้ขนาดใหญ่ถึง 4.5 นิ้วเลยทีเดียว

Adapter และ สาย MicroUSB แยกกันมาให้เพื่อประโยชน์ใช้งานสูงสุด จะชาร์จหรือจะ Sync ก็ได้

Smalltalk แบบ Stereo พร้อมรีโมทคอนโทรลและไมโครโฟน คุณภาพเสียงในการใช้ฟังเพลง ธรรมดามากๆครับ ไม่หวือหวาอะไรเลย เรียกว่า สมราคาละกัน

ตัวรีโมทเป็นรีโมทเป็นแบบกดรับสาย และใช้ Start/Stop เพลงเท่านั้น ควบคุมเสียงไม่ได้ครับ

Battery มีขนาด 1700 mAh .. ทาง Dtac เคลมว่า คุยได้นาน 11 ชม. ผมลองเอาไปทดสอบใช้งาน 1 วันโดยที่ใส่ SIM Dtac แต่ไม่ได้โทร เอาไว้เล่น Net อย่างเดียว โดยที่เปิด Notification ไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Twitter, Email , Instagram และอื่นๆ พบว่ากลับมาบ้านก็เหลือประมาณ 20% ครับ ก็ถือว่า เสียวๆพอดีสำหรับ 1 วันของผมนะ แต่ของคนอื่นไม่แน่ใจ

ด้านหลังเครื่องจะมีตราของ Dtac และ Huawei อยู่ ซึ่งเครื่องนี้จริงๆแล้วก็คือ Huawei Ascend G510 ที่ติดตรา Dtac มานั่นแหละครับ

กล้องแบบ 5Mb พร้อม Flash แบบ LED ถ่ายวีดีโอได้ความละเอียด 720p

รอบๆเครื่องของ Dtac Trinet Phone รุ่น Cheetah ถือว่าเกลี้ยงๆไม่ค่อยมีปุ่มอะไรนะครับ ด้านซ้ายเป็นปุ่ม Power / Volumn Control แล้วก็ MicroUSB Charge+Sync

ส่วนรูหูฟังขนาด 3.5 มม ก็อยู่ด้านบน ที่เหลือที่ 2 ข้างก็ไม่มีรายละเอียดอะไรแล้ว

ด้านหน้า ตรงโลโก้ด้านบนก็เป็นโลกโก้ของ Huawei พร้อมกล้องหน้า , ลำโพง และ Sensor ต่างๆ

ปุ่มที่ใช้งานกับ Android ก็เรียกกันดังต่อไปนี้ Back , Home , Menu ครับ

Dtac Trinet Phone Cheetah ใช้ SIM ขนาดปกติเลย เพราะทาง Dtac คิดว่า ผู้ใช้งานเครื่องนี้น่าจะเป็นมือใหม่ Smartphone ที่ไม่เคยผ่านการโดนตัดซิมมาก่อน เพื่อไม่ให้วุ่นวายก็ใช้ขนาด SIM ปกติซะเลยง่ายดี อ้อแล้ว Micro SD สามารถรองรับได้ถึง 32GB ครับ

เปิดเครื่องมาครั้งแรกจะมี Logo Dtac สีฟ้าสดใสอยู่หน้าจอเครื่องเลย โดยที่การบูทครั้งแรกหลังจากที่ใส่ Battery เข้าไปจะนานหน่อย เพราะเครื่องต้องทำการติดตั้งครั้งแรก ซึ่งเมื่อเสร็จแล้ว เราปิด เปิดเครื่องใหม่ครั้งต่อไป การบูทจะเสร็จใน 5 วินาทีครับ เพราะมีระบบ Warm boot มาช่วยเหลือ

รองรับการใช้งานภาษาไทยพร้อม … เค้าบอกว่าให้ รอแป๊บเดียว… ด้วยนะ

สำหรับ Full Spec ของ Dtac Trinet Phone รุ่น Cheetah มีดังต่อไปนี้เลยครับ

• Dual-core CPU 1.2 Ghz แบบ Arm Coretex-A9 ของ Qualcomm รุ่น MSM8225 Snapdragon
• แรม 512MB
• Storage สำหรับเก็บข้อมูล 4GB / สามารถใส่ MicroSD ได้เพื่มสูงสุด 32GB
• กล้องหลัง 5Mb แบบ Autofocus ถ่ายวีดีโอได้720p และกล้องหน้าถ่ายได้ความละเอียดระดับ VGA (640 x 480)
• Wi-Fi แบบ b/g/n รองรับ Wifi Direct และ DLNA
• Bluetooth 2.1 รองรับ A2DP
• หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 pixel เป็นจอแบบ IPS LCD
• ความเร็ว 3G ที่รองรับคือ ดาวน์โหลดได้ความเร็วสูงสุด 7.2 Mbps และ อัพโหลดที่ 5.76Mbps
• รองรับการฟังวิทยุ แต่ต้องเสียบ Smalltalk เพื่อใช้เป็นเสาอากาศนะครับ

ดูจาก Spec เมื่อเทียบกับราคา 4,590 บาทแล้วต้องบอกว่าสมราคามาก เพราะว่าในราคา 4,590 บาทเนี่ย จะหา Spec ที่หน้าจอใหญ่ แต่ CPU เป็น Dual-core Snapdragon นี่ไม่ค่อยมีนะครับ

ผลการทดสอบ Quadrant ออกมาคะแนนก็ใกล้เคียงกับ LG Optimus 2x ที่เป็น Dual-core เหมือนๆกัน เรียกได้ว่า ก็พอไปวัดไปวาไหวครับ

Android ที่ติดตั้งมาในเครื่องนี้เป็น Android 4.1.2 ตัวล่าสุด แล้ว และมาพร้อมกับ Home Screen ของ Huawei ที่มีชื่อว่า Emotion UI ข้อดีของเจ้า Home Screen ตัวนี้ก็คือ หน้าตามันโคตรเหมือน iPhone เลยครับ ฮ่าๆ แล้วก็มาพร้อม Theme พิเศษฃ ของ Dtac Trinet phone สีฟ้า + Font ที่เราคุ้นเคย และมาติดตั้ง App แบบ Exclusice เฉพาะ Dtac เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น watcherever ที่เอาไว้ดูหนัง , deezer , Hotodtac , Sport Dtac เพียบ!

คุณภาพกล้องของ Dtac Trinet Phone Cheetah ..

อืมมมมมม ในฐานะที่เรียกว่าใช้กล้อง iPhone5 ถ่ายรูปมาโดยตลอด ผมขอเรียกว่า กล้องของ Cheetah มันเฉยๆมากละกันครับ ถ่ายกลางแจ้งค่อนข้างดี แต่ถ่าย indoor ค่อนข้างธรรมดาไปจนถึงจืด .. แต่ผมว่า ก็สมราคาแหละครับ

คลิกที่นี่เพื่อดูรูปเต็มๆแบบไม่ลดความละเอียดจากกล้องได้ที่ Flickr ครับ http://www.flickr.com/photos/ripmilla/sets/72157634015598483/

Promotion พิเศษสำหรับ Dtac Trinet Phone

มี 3 แบบด้วยกันสำหรับคนที่อยากได้ Dtac Trinet Phone ทั้งแบบ เติมเงินและรายเดือนครับ

Promotion แรกสำหรับคนที่บัตรเครดิต ไม่อยากซื้อเครื่องราคาเต็มๆ สามารถผ่อนเครื่อง พร้อมได้ Promotion ตัว Top โดยแค่จ่ายเดือนละ 999 บาท นาน 10 เดือนครับ

Pro แบบที่ 2 ก็คือ สิทธิ์ในการเลือกสมัคร Package พิเศษ ที่ราคาถูกกว่า Package หลักๆทั่วไปครับ ผมเห็นแล้วยังอึ้ง เพราะผมใช้ Pro ของ iPhone5 อยู่ จ่ายเดือนละ 899 บาท ได้โทร 400 + Net 3G (FUP 3GB) เอง … แต่นี่ จ่ายแค่ 649 บาท แต่ได้ Internet มากกว่าผมอีก อ๊ากกกกก

Pro แบบที่ 3 สำหรับสายเติมเงินครับ ก็คือ ถ้าเติมเงิน 200 บาทขึ้นไปจะได้โบนัส โทรฟรี + Internet เพื่อมรวมเป็นมูลค่า 300 บาท โดยที่รับสิทธิ์นานถึง 16 เดือน คิดเป็นมูลค่า 4,800 บาท แพงกว่าค่าเครื่องอีก แม่เจ้า!!

สรุปความรู้สึกจากการที่ได้รีวิว Dtac Trinet Phone Cheetah

• ราคา 4,590 บาท แต่ได้ Spec ขนาดนี้ถือว่าคุ้มราคาครับ
• วัสดุพลาสติกที่ใช้ประกอบเครื่องดูดีมาก ถึงแม้จะเป็นพลาสติกก็ไม่ใช่พลาสติกง่อยๆที่จับแล้วรู้สึกเหมือนของถูก
• ระบบ Warm boot ดีมาก ทำให้เปิด ปิดเครื่องได้เร็วสุดๆ
• กล้อง หน้าและหลัง เรียกว่า ธรรมดา ไปหน่อย
• ความเร็วของ CPU และ แรม ถือว่า เร็วสำหรับมือใหม่หัดใช้ Android เลยครับ
• App พื้นฐานของ Dtac ติดตั้งมาให้ครบ ผมแนะนำ ให้สมัคร Watchever กับ Deezer ไว้ได้เลยครับ คุ้มสุดๆ
• ประกันเครื่องที่นานถึง 15 เดือน ถือว่า ใจถึงมากสำหรับ Dtac เพราะทุกที มือถือ ประกันแค่ 12 เดือนเท่านั้นเอง แถมภายในเวลา 7 วันหลังซื้อเครื่อง ถ้าเครื่องมีปัญหาเปลี่ยนเครื่องใหม่ทันทีครับ
• Android 4.1.2 กับเครื่องนี้ ผมว่ายังอยู่กันได้อีกนาน แต่อาจจะคาดหวังยากเรื่องการอัพเดทไปสู่รุ่นถัดไป อันนี้ต้องรอดูว่า Huawei จะสร้างความมั่นใจได้มากแค่ไหน

สุดท้าย ถ้าอยากจะดูรายละเอียดของ Dtac Trinet Phone เพิ่มเติม ก็ไปที่นี่ได้เลยคร้าบ

http://www.dtac.co.th/device/dtac-trinet-phone/cheetah.html

• Facebook
• Twitter
• Line