Home -> Killer Featured -> รีวิวจอ Multitouch Dell S2340T

รีวิวจอ Multitouch Dell S2340T

ตั้งแต่ Windows 8 ออกมา อุปกรณ์ในฝั่ง PC ก็เริ่มที่จะมีการติดตั้งระบบหน้าจอสัมผัสให้ใช้งานกันยกใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Desktop หรือ Notebook .. สำหรับคนที่มีเครื่องอยู่แล้ว แต่กำลังมองหาจอ Multitouch ใหญ่ๆ คุณภาพดี การสัมผัสไม่เพี้ยนแล้วก็มี Accessories ติดตั้งมาแบบครบๆโดยที่ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่ม ก็ลองดู Dell S2340T ตัวนี้ได้ครับ

นับตั้งแต่ Microsoft เปิดตัวเจ้าโต๊ะ Surface เมื่อปี 2007 ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ได้เห็นเจ้าโต๊ะตัวนั้นก็คงอยากได้มาตั้งที่บ้านบ้างล่ะ ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะเอามาทำอะไร นอกจากจิ้มๆเล่น

แต่ที่แน่ๆ ตอนที่เจ้าโต๊ะตัวนี้เปิดตัว มันก็เปิดประสบการณ์ด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์จากการที่เราพิมพ์และควบคุมเครื่องผ่าน Keyboard และ Mouse  ให้กลายเป็นการสัมผัส บอกตามตรงว่าผมเองก็โคตรอยากได้เลยครับ แต่คิดในใจโต๊ะบ้า ตัวละ 3 แสนกว่าบาท ช่างมันเห๊อะ ไม่เอาก็ได้

แต่ไปๆมาๆ คนที่เปิดประสบการณ์ระบบสัมผัสให้ชาวโลกรู้จักกลับเป็น iPhone ของ Apple ซะงั้นน่ะ

จนกระทั่ง Microsoft เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 8 เมื่อปี 2012 …เราถึงได้ใช้ระบบสัมผัสบนโลกของ Microsoft กับเค้าบ้างล่ะนะ (อย่าไปนับพวกระบบสัมผัสในพวก Windows Tablet Edition เมื่อก่อน เพราะมันติงต๊องเหลือเกิน)

Windows 8 ได้รับการออกแบบมาเพื่อระบบสัมผัสอย่างเต็มที่ อย่างพวก Notebook ที่รองรับ Windows 8 ก็มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสด้วยกันทั้งสิ้น แต่สำหรับ Desktop PC ที่พึ่งติดตั้ง Windows 8 แต่ไม่มีหน้าจอสัมผัสมาด้วยล่ะจะทำยังไง

ก็คงต้องเปลี่ยนจอครับ เป็นหนทางเดียว

แต่ใช่ว่าจะหาจอ Multitouch แบบไหนยี่ห้อไหนมาใช่้ก็ได้นะครับ ซึ่งจอที่จะใช้งานกับ Windows 8 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็จะต้องได้รับ Microsoft Certified มาเป็นโลโก้ Windows 8 แปะมาด้วย

ซึ่งผมได้รับจอ Dell S2340T มาจากทาง Dell เพื่อทดสอบครับ ซึ่งจอนี้ก็ได้รับ Certified ในการใช้งานกับ Windows 8 ด้วยครับ ชื่อรุ่นของมันคือ Dell S2340T

เจ้าจอ Dell S2340T เป็นจอขนาด 23 นิ้ว ความละเอียด Full HD จุดเด่นก็คือ มันเป็นจอที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานกับ Windows 8 โดยเฉพาะ เรียกได้ว่า แค่เสียบจอ กับ เครื่องที่เป็น Windows 8 ก็ไม่ต้องมี Keyboard หรือ Mouse ก็ยังได้

ก่อนอื่นมาดูหน้าตากันก่อนนะครับ

????????????????????????????

ภาพด้านหน้าขอใช้ภาพจากทาง Dell นะครับ เพราะว่าผมถ่ายแล้วมีแสงสะท้อนตลอดเลย  ตัวจอเป็นสีดำทั้งตัว วัสดุเป็นพลาสติกที่เงาๆหน่อย สะท้อนแสงได้ ขอบของจอ ไม่หนามากแล้วก็มีปุ่มควบคุม 4 ปุ่มอยู่ด้านล่างขวาครับ

IMG_0647

โชว์ด้านข้างให้เห็นกันก่อน ความหนาของจอแบบรวมฐานเข้าไปด้วยจะอยู่ที่ 8.58 นิ้วครับ ตัวจอยกได้สูงสุดคือ 16.34  นิ้ว

IMG_0648

 

จุดเด่นของจอตัวนี้คือการที่มันเอียงตัวได้เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานแบบสัมผัสหน้าจอ ซึ่งเราสามารถปรับให้มันรับกับการพิมพ์แบบนี้ก็ได้

IMG_0649

 

หรืออยากจะให้มันนอนแอ้งแม้งแบบนี้เลยก็ยังได้

IMG_0640

 

Port ในการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ฐานด้านหลัง โดยเรียงดังต่อไปนี้ครับ

  • Power Adapter
  • HDMI Port
  • Display Port
  • USB 3.0 x 2
  • ช่องเสียบสาย USB แบบพิเศษเอาไว้เชื่อมกับตัว PC
  • LAN Port
  • Kensington Cable Lock

IMG_0651

และอย่างที่เกริ่นไปตอนต้น ว่าเจ้านี่เป็นจอแบบครบเครื่องชนิดไม่ต้องหาอะไรมาต่อเพิ่มอีก อย่างแรกก็คือ มันมีลำโพงแบบ 5 Watt มาให้ 2 ข้างด้วยกันครับ อยู่บริเวณฐานของจอ ทั้งด้านซ้ายและขวาเลย และสำหรับด้านขวา มี Port USB 3.0 ให้อีก 2 Port ด้วย

IMG_0641

 

ด้านซ้ายจะมีลำโพงแล้วก็ช่องเสียบหูฟังและ Microphone  ขนาด 3.5 มม. ครับ จริงๆมันมี Microphone Built-in มาในตัวด้วยนะครับ

IMG_0654

 

ปิดท้ายด้วย ตรงกลางหน้าจอ มี Webcam ที่รองรับการถ่ายภาพขนาด Full HD ให้อีก 1 ตัว … สรุป แค่เสียบจอนี้กับเครื่อง ก็จะมีครบหมด ทั้งหน้าจอสัมผัส ลำโพง และ Webcam ถือว่าเป็น Station สำหรับให้บริการง่ายๆได้เลยนะเนี่ย

ทีนี้เจ้าระบบสัมผัสเนี่ยมันดีแค่ไหนล่ะ สำหรับระบบสัมผัสของจอ Dell S2340T เป็นแบบ Capacitive Multitouch รองรับได้ 10 จุดตามมาตรฐานของ Windows 8 ครับ ลองมาดูผลการทดสอบแบบวีดีโอกันดีกว่า

แล้วเวลาทดสอบพวกจอ Multitouch แบบนี้ก็ไม่พ้นต้องทดสอบกับ App แผนที่ครับ จริงๆ มันมีทดสอบเกม Angry Bird อีกอันนะ แต่พอเถ๊อะ ผมว่าเห็นมากันจนเบื่อแล้วล่ะมั้ง

พอดีจอตัวนี้มีเวลาทดสอบไม่นาน ผมก็เลยไม่ได้เล่นอะไรมาก แต่หลังจากที่ทดสอบใช้งานประมาณ 4-5 วันได้ขอสรุปความสามารถจากความรู้สึกดังต่อไปนี้นะครับ

ความเจ๋งที่พบ

  • เป็นจอ LED ขนาด23 นิ้ว ความละเอียดในระดับ Full HD ที่มี Response Time ขนาด 8ms .. ถึงจะไม่เริ่ดนัก แต่เวลาเล่นพวกเกมยิงๆ ก็ไม่มีภาพติดตาให้เห็น
  • เป็น IPS Panel ที่ให้มุมมองด้านซ้ายขวา และ บนล่าง กว้างถึง 178 องศา
  • ถึงแม้ว่าภาพจะสวยสู้พวก Ultrasharp ไม่ได้ แต่ความคมของ pixel ที่ 0.27 มม ก็พอช่วยได้อยู่
  • ฐานตั้งที่ปรับ ได้ทั้งแต่ยกสูง ยัน นอนราบ ทำให้พลิกแพลงการทำงานได้มากขึ้น
  • ทำงานร่วมกับโปรแกรม Dell Display Manager ในการควบคุมหน้าจอได้อย่างดี
  • มี Port USB ให้เยอะมาก แถมยังมี LAN Port มาให้ด้วย ใครที่ใช้พวก Ultrabook แบบบางๆ ที่ไม่มี LAN มาให้ สามารถเชื่อม USB เข้ากับจอภาพนี้ แล้วเสียบสาย LAN เข้ากับจอ ก็สามารถใช้ LAN ได้เลย มองอีกแง่มุมนึง เจ้า Dell S2340T นี่ก็เหมือน Docking ไว้ประกอบร่างเลยครับ
  • ระบบ Multitouch ชั้นดีที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ ไม่ Lag ตอบสนองต่อนิ้วทั้ง 10 ได้ดี
  • ฐานจอแข็งแรงมาก แล้วปรับได้ละเอียด เพื่อองศาการทำงานที่คุณอยากจะได้จริงๆ

ข้อเสียที่เจอ

  • ดันเป็นจอ Glossy ก็เลยจะมีโอกาสสะท้อนกับแสงไฟบนเพดานอย่างมากเลยทีเดียว
  • และพอเป็นจอ Glossy แต่ดันเอามาใช้กับงาน Touch Screen ก็เลยจะเลอะลายนิ้วมือง่ายอีกนั่นแหละ
  • ออกแบบมาเพื่อทำงานกับ Windows 8 เท่านั้นก็เลยไม่มี VGA Port มาให้ บางทียามคับขันก็อาจจะใช้จอนี้ไม่ได้เลย
  • เป็นจอ Touchscreen แท้ๆ แต่เวลาจะปรับแต่งอะไรในเครื่องต้องใช้ปุ่มที่อยู่บนตัวเครื่อง ปัดธ่อ
  • เปิดตัวมาด้วยราคาชวนจุก ประมาณ 20,000 บาท แต่ตอนนี้น่าจะมีการปรับราคาลงแล้ว

OriginalJPG

จอตัวนี้เหมาะกับใคร??

โลกนี้ไม่มีของห่วยหรอกครับ มีแต่ของที่เหมาะกับใครมากกว่า เท่าที่ทดสอบดู เจ้า Dell S2340T ตัวนี้เหมาะกับงานจำพวกต่อไปนี้ครับ

  • คนที่มี Tablet Windows 8 ไว้พกพา แต่พอกลับบ้าน หรือ เข้า Office ก็อยากทำงานเต็มรูปแบบ (เสียบสาย HDMI กับ USB แค่นี้ก็ทำงานบนจอใหญ่ได้เลย )
  • ร้านค้า ที่อยากจะได้เครื่องบริการลูกค้า แต่ไม่อยากให้มี Mouse หรือ Keyboard มาเกะกะ เพราะทำงานทุกอย่างได้บนหน้าจอ แถมยังมีลำโพง , Microphone กับ Webcam ระดับ Full HD ให้อีกด้วย
  • ครอบครัวสาย Windows 8 ที่คนในบ้านมี Tablet Windows 8 กันคนละเครื่องแล้ว ใช้จอนี่เป็นจอกลางประจำบ้าน (มันจะมีครอบครัวแบบนั้นบนโลกด้วยเรอะ??)

สำหรับ Dell S2340T ถ้าใครสนใจ Melonbox.com ขายราคาพิเศษอยู่ที่ 18,900 บาทนะครับ ลองไปวู่วามกันได้ที่นี่เลย http://www.melonbox.com/components/monitor/below-24/DELL-S2340t

 

Check Also

รีวิว Auto-Empty Dock ของที่ต้องมีถ้ามีคุณ Roborock s7

ไม่ต้องเกริ่นเยอะ สำหรับคนที่ใช้งานหุ่นยนต์ทำความสะอาด ถึงแม้ว่ามันจะสะดวกสบายก็เถอะ แต่มันก็ยังเหลือ ภาระนิดๆ ให้คุณต้องมาจัดการบ่อยๆ นั่นก็คือ ต้องเอาฝุ่นใน Dustbin มันมาทิ้ง!! Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine

3 comments

Leave a Reply